เมื่อวันที่ 25 เม.ย. “บิ๊กเอ” ผศ. พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานที่ปรึกษานโยบายด้านกีฬา พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา ที่ปรึกษานโยบายด้านกีฬา, นายต้น ณ ระนอง ผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย แถลงนโยบายกีฬาเรื่องมวยไทย ถ้าได้จัดตั้งรัฐบาล ที่สำนักงานใหญ่พรรคเพื่อไทย

ผศ.พิมล กล่าวว่า จากการที่ตัวเองทำกีฬาต่อสู้มาตลอด คือ เทควันโด และดีวันดีคืน ประสบความสำเร็จ คนเล่นมากขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะคนไทย ได้เฝ้าดูมวยไทยมาตลอด มวยไทย เป็นมรดกของไทยที่ต้องได้รับการสนับสนุน ต่อยอด เพื่อสร้างชื่อเสียง สร้างความภาคภูมิใจ สร้างโอกาส สร้างรายได้ให้กับคนไทย เพราะมวยไทย เป็นกีฬาเดียวที่มีชื่อประเทศอยู่ในชนิดกีฬา ดังนั้น จึงมีความหมายมากในทุกมิติ มวยไทย ต้องได้รับการสนับสนุนผลักดันอีกมาก ข้อมูลจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) มีค่ายมวยไทยมากถึง 40,000 แห่งทั่วโลก มีชาวต่างชาติ มาฝึกมวยไทยที่ไทยมากถึง 6-7 หมื่นคนต่อปี ซึ่งเชื่อว่ายังตกหล่นอีกมาก

ผศ.พิมล กล่าวต่อว่า ตอนนี้มวยไทยได้รับการสนับสนุนอยู่แล้ว แต่จากนโยบายคิดใหญ่ ทำเป็นของพรรคเพื่อไทย อยากจะทำให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่มีพลังมากกว่าที่เป็นในปัจจุบัน เป้าหมายที่อยากทำ มีอยู่ 3 เรื่อง คือ 1.พัฒนามวยไทยให้ได้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก มีการให้ใบรับรองครูฝึกมวย นักมวย ให้ได้มาตรฐานว่าอยู่ในระดับไหน ไปถึงจุดไหนถึงจะเป็นครูสอนได้ ไม่ใช่เตะต่อยเป็นเล็กๆ น้อยๆ แล้วไปเป็นครูมวย เพราะจะทำให้มาตรฐานของนักมวยที่ไปเรียนด้วยน้อยลง, 2.เพื่อขยายความนิยมมวยไทย ซึ่งนับเป็นศิลปวัฒนธรรมการต่อสู้และเป็นมรดกอันทรงคุณค่าของไทย เป็นมวยไทยที่ออกไปทั่วโลกแล้วแข่งในระดับนานาชาติ ไม่ใช่ไปผสมผสานกับศิลปะแขนงอื่นๆ เช่น เอ็มเอ็มเอ หรือ คิกบ๊อกซิ่ง จนทำให้มวยไทยกลายพันธุ์ ตรงนี้ภาครัฐต้องให้การสนับสนุน และ 3.เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนในวงการและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับมวยไทย

สำหรับแนวทางปฏิบัติเพื่อยกระดับวงการมวยไทย ถ้าได้เป็นรัฐบาล ดังนี้ 1.รวมความรู้มวยไทย สร้างมาตรฐานสู่การออกใบรับรองในระดับสากล โดยมี กกท. เป็นเจ้าภาพ ทำงานร่วมกับกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย, สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย 2.สร้างสถาบันผู้ตัดสินมวยไทยให้เป็นที่ยอมรับ 3.ส่งเสริมสนับสนุนให้ทั่วถึงทั้งวงการ มีการติดตามประเมินผลให้ตรงกับศักยภาพของงาน 4.ประชาสัมพันธ์มวยไทยไปไกลทั่วโลก ทั้งการจัดการแข่งขัน โรดโชว์ ถ่ายทอดสด ทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ เชื่อมสัมพันธ์แฟนคลับเพื่อสร้างกระแสไปทั่วโลก 5.สนับสนุนค่ายมวยไทยให้เติบโตทั้งในและนอกประเทศ ทั้งเงินกู้ ความรู้และบุคลากร 6.ส่งเสริมมวยไทย ให้เป็นวิชาพื้นฐานกีฬาของทุกโรงเรียน แบบเดียวกับที่ประเทศฟินแลนด์ บรรจุในการเรียนการสอนไปก่อนแล้ว

“ผมเชื่อว่าถ้าทำตามนโยบายนี้ ประชาชนจะหันมาสนใจมวยไทยมากขึ้น ขยายฐานมวยไทยไปทั่วโลก สร้างโอกาส สร้างรายได้ให้กับคนไทยมากขึ้น เพื่อไทยออกนโยบายและต้องจับต้องได้เป็นรูปธรรม ต้องร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับมวยไทย มาทำงานร่วมกัน เพราะองค์กรมวยไทยมีมากมาย เชื่อว่าถ้าองค์กรต่างๆ จะช่วยให้มวยไทยดีขึ้นได้ จะต้องร่วมมือกันทำงาน” บิ๊กเอ กล่าว.