เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 25 เม.ย. พ.ต.ท.ธเนศพล แสงโชติ สว.(สอบสวน) สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งตกคลองชลไซฟอนคลองทราย ริมถนนสายเอเชีย-เทศบาลคลองจิก ต.คลองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้บาดติดอยู่ภายในรถ จึงรีบประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ไปให้การช่วยเหลือ ก่อนรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถโตโยต้า วีออส สีขาว ทะเบียน กท 7949 พระนครศรีอยุธยา สภาพหงายท้องล้อชี้ฟ้า หลังคารถจมอยู่ในน้ำครึ่งคัน มีชาวบ้านกำลังช่วยเหลือผู้บาดเจ็บออกมาจากรถได้ 4 คน ส่วนที่บริเวณที่นั่งคนขับ พบผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายทราบชื่อ นายบุญส่ง ศิริวานิชกุล อายุ 76 ปี ติดอยู่ภายใน เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ต้องใช้รถยกมายกขึ้นจากในคลอง ก่อนนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากรถได้ ผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพยังคาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

สอบถาม 1 เพื่อนผู้ตายที่บาดเจ็บเบื้องต้นเล่าว่า เดินทางมาด้วยกันทั้งหมด 5 คน ชาย 2 คน หญิง 3 คน ทั้งหมดเป็นญาติและเพื่อนบ้านกัน ชวนกันไปทำบุญไหว้พระที่ จ.นครนายก ก่อนเกิดเหตุพากันขับรถออกมาจากบ้านละแวกวัดสุคันธาราม อ.บางปะอิน ใกล้กับที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเป็นสามแยก ผู้ตายได้จอดรถเพื่อดูให้แน่ใจว่าไม่มีรถแล้วจึงเลี้ยวขวา แต่คาดว่าตีวงกว้างไปหน่อย ทำให้รถตกขอบถนนพลิกคว่ำตกลงไปในคลอง แล้วค่อยๆ จมลง โชคดีมีหมาเห่าทำให้ชาวบ้านละแวกดังกล่าวได้ยินเสียงออกมาช่วยทัน ส่วนคนขับออกมาไม่ทัน เพราะติดเข็มขัดนิรภัย

นายบุญสม ชุ่มเสน่ห์ อายุ 62 ปี พลเมืองดีที่ช่วยผู้บาดเจ็บเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า กำลังนอนอยู่แล้วต้องสะดุ้งตื่น เพราะได้ยินเสียงเจ้าโกโก้ สุนัขเพศผู้ที่เลี้ยงเอาไว้ เห่าส่งเสียงดังนานผิดสังเกต จึงออกมาดูเห็นรถคันดังกล่าวตกลงไปในคลอง ทีแรกคิดว่าคนในรถคงออกมาแล้ว แต่ได้ยินเสียงคนเคาะรถร้องขอความช่วยเหลือ จึงรีบลงไปช่วยเปิดประตูรถ จนคนในรถออกมาได้ 4 คน แต่ก็ลำบาก เพราะส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ จากนั้นได้สอบถามว่ามากันกี่คน พบว่ายังอยู่ในรถอีกคน เป็นคนขับรถจมน้ำอยู่ จึงรีบอ้อมไปประตูรถฝั่งคนขับ พยายามเปิดประตูแล้วแต่เปิดไม่ได้ กระทั่งเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ มาช่วย พบว่าเสียชีวิตแล้วดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิตขับรถมาถึงบริเวณสามแยก จังหวะที่เลี้ยวขวาไปทางเทศบาลตำบลคลองจิก อาจเลี้ยวตีวงกว้างไป จนรถตกขอบถนนที่ไม่มีแนวกั้น ทำให้เสียหลักตกลงไปในคลอง ทำให้ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป