เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ร.ต.อ สุรสิทธิ์ ใจเที่ยง รอง สว.(สอบสวน) สภ.ป่าโมก จ.อ่างทอง รับแจ้งเหตุรถกระบะเฉี่ยวชนรถ จยย.บิ๊กไบค์ มีผู้บาดเจ็บ บริเวณฟุตปาธริมถนนสาย 33 (ป่าโมก-สุพรรณบุรี) ใกล้หน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ไกรวีระเดชาชัย ผกก.สภ.ป่าโมก เจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.ป่าโมก และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ อีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน พระนครศรีอยุธยา สภาพมีรอยเฉี่ยวชน จอดคาอยู่ริมฟุตปาธ โดยข้างล้อหน้าพบร่าง น.ส.เจนจิรา (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี สภาพนอนหมดสติ มีเลือดไหลออกทางหัว เป้าตาปูด สะโพกหัก เจ้าหน้าที่รีบนำส่งโรงพยาบาลป่าโมก ใกล้กันพบรถ จยย.บิ๊กไบค์ ยามาฮ่า สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร สภาพพังเสียหายล้มอยู่

จากการสอบถาม นายเอ (นามสมติ) อายุ 39 ปี คนขี่รถ จยย.บิ๊กไบค์ เบื้องต้นเล่าให้ฟังว่า ได้ขี่รถ จยย.มากับผู้บาดเจ็บ เพื่อมาเอาเอกสารที่คุมประพฤติจังหวัดอ่างทอง เรื่องที่ น.ส.เจนจิรา ถูก นายอ๊อฟ (สงวนชื่อสกุลจริง) อายุ 34 ปี แฟนเก่าทำร้ายร่างกาย ระหว่างทางเห็น นายอ๊อฟ ขับรถกระบะคันดังกล่าวตามมาชนท้ายรถ จยย.ตนขึ้นไปบนฟุตปาธ ทำให้ตนกระเด็นตกไปข้างทาง ส่วน น.ส.เจนจิรา บาดเจ็บนอนหมดสติ จากนั้นนายอ๊อฟ พยายามจะขับรถทับ น.ส.เจนจิรา ที่นอนหมดสติอยู่ข้างรถ แต่โชคดีล้อหน้าติดหลุมทรายและขอบฟุตปาธ ตนจึงหยิบก้อนหินขว้างไปที่ประตูรถแล้วดึงตัวออกมาชกต่อยกัน จนมีชาวบ้านและเด็กปั๊มน้ำมันเข้ามาห้ามปราม และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาล

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว นายอ๊อฟ ไว้ได้ในที่เกิดเหตุก่อนนำตัวมาสอบสวนขยายผลที่ สภ.ป่าโมก เบื้องต้นให้การอ้างว่า จะขับรถปาดหน้าให้จอดเพื่อสอบถามเรื่องคดี แต่ควบคุมรถไม่อยู่ ทำให้ไปชนท้ายรถ จยย.แฟนใหม่และอดีตแฟนสาว ทำให้รถล้มลงและรถพุ่งขึ้นฟุตปาธ โดยไม่เห็นว่าอดีตแฟนอยู่ใต้ท้องรถ ขณะพยายามถอยลงฟุตปาธ ยืนยันว่าไม่ได้คิดทำร้ายอดีตแฟนสาว และไม่มีเจตนาที่จะชน แค่ตั้งใจจะปาดหน้า แต่รถเกิดชนกันเพราะเบรกไม่ทัน

ด้านแม่ น.ส.เจนจิรา อายุ 53 ปี เล่าให้ฟังว่า นายอ๊อฟ เคยคบหาอยู่กับลูกสาวไม่ถึงปี และเลิกคบกันนานร่วม 2 เดือนแล้ว ที่ผ่านมา นายอ๊อฟ ลงมือทำร้ายร่างกายลูกสาวต่างๆ นานา ทั้งใช้ไม้ตีหัว ใช้ขวดแก้วแทงคอเป็นคดีความกันอยู่ และประกันตัวออกมา พร้อมขู่ว่าจะฆ่าให้ตาย กระทั่งมาก่อเหตุล่าสุดวันนี้ ขณะที่ลูกสาวตนกำลังไปให้ปากคำคดี แต่มาเกิดเรื่องเสียก่อน ซึ่งตอนนี้ยังบาดเจ็บสาหัสไม่ได้สติ ทางโรงพยาบาลป่าโมก ต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลอ่างทอง

พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าทั้งสองฝ่ายให้การสวนทางกัน อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่าเป็นอุบัติเหตุหรือไม่ ส่วนข้อกล่าวหาที่ทางผู้เสียหายให้การ ทางผู้ถูกกล่าวหายังให้ปฏิเสธว่าไม่มีเจตนาชน ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนรวบรวมหลักฐาน ถ้ามีหลักฐานแน่ชัดว่าตั้งใจก่อเหตุอาจจะมีการแจ้งข้อหา พยายามฆ่า อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป