ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (31 ส.ค.64) ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วม และดินสไลด์ ในโครงข่ายทางหลวงพบว่ามีน้ำท่วม/ดินสไลด์ 1 จังหวัด 2 สายทาง 2 แห่ง โดยรถสามารถสัญจรได้ 1 แห่ง และไม่สามารถสัญจรได้ 1 แห่ง ดังนี้ 1.ทล.33 ปากพลี-ประจันตคาม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ช่วง กม.ที่ 146+775-146+875 ระดับน้ำสูง 20-25 ซม. จุดกลับรถใต้สะพานคลองยาง เจ้าหน้าที่ติดตั้งแบริเออร์พลาสติก ไม่ให้รถผ่านลงมาให้ไปกลับรถด้านหน้าแทน และ 2.ทล.3077 ศาลนเรศวร-เขาใหญ่ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ช่วง กม.ที่ 4+080-4+200 ระดับน้ำสูง 10-15 ซม. การจราจรผ่านได้ไม่สะดวก มีเจ้าหน้าที่ติดตั้งป้ายเตือนคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร

ทั้งนี้ ทล. สั่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศ เตรียมพร้อมทั้งเครื่องมือเครื่องจักร โดยเฉพาะเตรียมสะพานเบลีย์ (สะพานเหล็ก) กรณีหากเกิดทางขาด สะพานขาด และจัดเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชม. ทั้งนี้ขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือนป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.)            

ขณะที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) แจ้งว่า เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (31 ส.ค.64) สำนักบำรุงทาง รายงานสถานการณ์ถนนทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่างพบว่ามีถนน ทช. ที่ประสบอุทกภัย ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 1 สายทาง คือ ถนนทางหลวงชนบทสาย ตก.4014 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1090-บ้านพบพระเหนือ อ.แม่สอด และ อ.พบพระ จ.ตาก ช่วง กม.ที่ 10+697-10+727 ซึ่งมีสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กเกิดการทรุดตัว เนื่องจากมีฝนตกหนักในพื้นที่อย่างต่อเนื่องและเกิดน้ำป่าไหลหลากกัดเซาะตอม่อของสะพาน 

ขณะนี้สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 8 (นครสวรรค์) และแขวงทางหลวงชนบทตาก จัดเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักร เร่งประกอบสะพานเบลีย์ เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานเบลีย์ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันที่ 3 ก.ย.นี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนสามารถสัญจรผ่านได้ชั่วคราว ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดี ทช. ที่ได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่บริหารจัดการเส้นทางและให้รีบนำเครื่องมือเครื่องจักรเข้าดำเนินการทันที เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรผ่านได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ ทช. จะเร่งดำเนินการให้เข้าสู่ภาวะปกติ และจะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบต่อไป ขออภัยในความไม่สะดวกไว้ ณ ที่นี้ด้วย ประชาชนสามารถสอบถามหรือแจ้งเหตุอุทกภัยได้ที่สายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146