เมื่อวันที่ 3 เม.ย. พ.ต.ท.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ภายในสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม ตรงข้ามโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ถนนเพาะนิยม เขตเทศบาลนครอุดรธานี อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงนำกำลังตำรวจชุดสืบสวนและตำรวจสายตรวจ 191 รุดไปตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุพบ นายอดิสรณ์ อ่อนมาสาย อายุ 52 ปี นั่งร้องไห้เนื้อตัวสั่นเล่าให้ฟังว่า ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป มานอนเฝ้าพี่ชายซึ่งป่วยเนื้องอกในสมอง ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. ซึ่งพี่ชายจะได้ผ่าตัดวันที่ 6 เม.ย. โดยตนนำเงินเก็บจำนวน 80,000 บาท ติดตัวมาด้วย เพื่อเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายรักษาพี่ชาย

“หลังจากขึ้นไปเยี่ยมพี่ชายบนตึกแล้ว ช่วงบ่ายวันนี้ ตนลงมานอนพักผ่อนในสวนสาธารณหนองประจักษ์ โดยถอดกระเป๋าคาดเอววางไว้ข้างๆ จากนั้นได้โทรศัพท์หาภรรยา ก่อนเผลอหลับไป พอตื่นขึ้นมาพบว่ากระเป๋าคาดเอวสีเขียวได้หายไป ข้างในมีเงินสด 81,500 บาท บัตรประชาชนของตนและของพี่ชาย พร้อมโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างกระเป๋า คนร้ายก็เอาไปด้วย” นายอดิสรณ์ กล่าว

จากนั้น นายอดิสรณ์ ได้ยืมโทรศัพท์ชาวบ้านโทรฯไปบอกภรรยาที่บ้านว่า วันนี้เพลียได้เผลอนอนหลับ ทำให้โดนคนร้ายขโมยกระเป๋าเงินไปหมด ซึ่งภรรยาก็ร้องไห้ ทำให้นายอดิสรณ์พูดปลอบใจภรรยาว่า อย่าร้องไห้ เดี๋ยวความดันจะขึ้น ซึ่งเงินทั้งหมดเป็นเงินที่ทำงานรับจ้างได้เก็บหอมรอมริบมาไว้เพื่อมารักษาพี่ชายป่วยเนื้องอกในสมอง และขอความเห็นใจจากคนร้ายอยากให้เอาเงินมาคืน เพราะไม่มีเงินรักษาพี่ชายแล้ว

ด้าน พยานผู้เห็นคนร้าย เล่าว่า ตนมาเฝ้าสามีผ่าตัดพร้อมกับญาติ โดยมานั่งปูเสื่อกินข้าวห่างจากผู้เสียหายประมาณ 50 เมตร ขณะที่ผู้เสียหายนอนหลับ ตนเห็นคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 20-25 ปี รูปร่างผอม ใส่เสื้อคลุมแขนยาว กางเกงขายาว สวมหมวกแก๊ป สะพายเป้ เดินมาจากฝั่งทางประตูสวนสาธารณะหนองประจักษ์ มาหยุดยืนมองผู้เสียหายนอนหลับ จากนั้นคนร้ายได้หันมาจ้องหน้าตน จึงหลบสายตานั่งกินข้าวต่อ ไม่นานผู้เสียหายก็ตื่นขึ้นมาแล้วร้องโวยวายว่าเงินหายแล้ว

ขณะที่ นางอารีรัตน์ จันทรา ผู้ขับขี่รถ จยย.รับจ้าง เล่าว่า ผู้เสียหายวิ่งมาขอความช่วยเหลือ หน้าซีด ร้องไห้โฮ พร้อมกับบอกว่า โดนขโมยเงินและโทรศัพท์ขณะนอนอยู่ในสวนสาธารณหนองประจักษ์ อยากให้แจ้ง รปภ. และตำรวจ ตนจึงโทรฯ แจ้งตำรวจ จากนั้นก็โทรศัพท์เข้ามือถือผู้เสียหาย โทรฯ ติด 2-3 ครั้ง ก่อนที่คนร้ายจะปิดมือถือของผู้เสียหายไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้ตรวจกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี เพื่อใช้เป็นเบาะแสติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.