สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ว่าทำเนียบรัฐบาลอิสราเอลออกแถลงการณ์ว่า พล.ท.เบนนี กันต์ซ รมว.กลาโหมของอิสราเอล เข้าพบประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ ที่เมืองรามัลเลาะห์ ในเขตเวสต์แบงก์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
แม้เป็นการพบหารือกันอย่างไม่เป็นทางการ แต่นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้พบหน้ากัน และ พล.ท.กันต์ซยังเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของรัฐบาลอิสราเอลชุดปัจจุบัน ซึ่งเดินทางเยือนเขตเวสต์แบงก์
ขณะที่รัฐบาลอิสราเอลให้ข้อมูลเพียงว่า ผู้นำปาเลสไตน์และ พล.ท.กันต์ซพบหารือกันเกี่ยวกับ การยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคง และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในเขตเวสต์แบงก์ และฉนวนกาซา โดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้มีการสานต่อด้านความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด และเป็นระบบ
สำหรับการเข้าพบผู้นำปาเลสไตน์ของ พล.ท.กันต์ซ เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังนายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเนตต์ เยือนกรุงวอชิงตัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อพบหารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งยังคงเน้นย้ำจุดยืนของสหรัฐ สนับสนุนแนวทางสองรัฐ เพื่อคลี่คลายข้อพิพาทระหว่างอิสราเอลกับปาไลสเตน์ สวนทางกับผู้นำอิสราเอล ซึ่งยังคงยืนกรานไม่ยอมรับ "สถานภาพและการมีตัวตน" ของปาเลสไตน์
อย่างไรก็ตาม ไบเดนยังคงสานต่อนโยบายจากรัฐบาลวอชิงตันชุดที่แล้ว ในสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นั่นคือ "การรับรอง" สถานะของนครเยรูซาเลม ในฐานะ "เมืองหลวง" ของอิสราเอล และย้ายสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐจากกรุงเทลอาวีฟไปยังนครศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ สร้างความไม่พอใจอย่างหนักให้กับปาเลสไตน์ ซึ่งระงับการติดต่อแทบทุกช่องทางกับสหรัฐจนถึงปัจจุบัน.
เครดิตภาพ : REUTERS