เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ฝุ่นควันที่จังหวัดเชียงใหม่ยังไม่คลี่คลาย คุณภาพอากาศยังอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ กลุ่มควันจากไฟป่าปกคลุมหนาแน่น โดยในวันนี้ (28 มีนาคม) ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ หรือ ซีซีดีซี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รายงานปริมาณฝุ่นพีเอ็ม 2.5 รายชั่วโมง ในเวลา 11.00 น. ที่ ต.เมืองงาย อ.เชียงดาว สูงถึง 629 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ส่วนในเขตตัวเมืองที่ชุมชนหมื่นสาร ต.หายยา 310 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และในวันนี้จังหวัดเชียงใหม่ครองอันดับ 1 เมืองคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 จากการจัดอันดับของเว็บไซต์ iqair.com

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่ แถลงสถานการณ์และการป้องกันควบคุมไฟป่า PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมแนวทาง มาตรการ การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากวิฤติหมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ว่า ระยะ 2 เดือนนับจากการเกิดปัญหามาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงปัจจุบัน จังหวัดเชียงใหม่ พยายามควบคุมสถานการณ์มาตลอด และในเดือนมีนาคม เชียงใหม่พบจุดความร้อน 1,757 จุด อยู่ในลำดับที่ 6 ของ 17 จังหวัดทางภาคเหนือ นอกจากนี้จังหวัดเชียงใหม่ ไม่จำเป็นต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน และมองแล้วไม่จำเป็นต้องประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ หากประกาศไปแล้วจะกระทบด้านการท่องเที่ยวที่ปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในเชียงใหม่ 75-80 เปอร์เซ็นต์ และสภาพอากาศไม่ได้เลวร้ายทุกวัน

ดังนั้น จึงใช้วิธีเพิ่มวงเงินช่วยเหลือเพราะห่วงใยสุขภาพของประชาชนเป็นอันดับแรก โดยให้ท้องถิ่นเร่งจัดหาหน้ากากอนามัยเอ็น 95 เพิ่มเติมและให้อำเภอมีอำนาจพิจารณาหยุดเรียน หยุดงาน หรือ เวิร์กฟรอมโฮมหากค่าฝุ่นพิษในพื้นที่เข้าขั้นวิกฤติ รวมทั้งให้ทุกโรงพยาบาลดูแลผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง ยืนยันในพื้นที่ควบคุมการเผาได้ดี แต่ฝุ่นควันที่เข้ามาเป็นหมอกควันข้ามแดนจากเพื่อนบ้านที่สะสมในช่วง 1 เดือน รวมเกือบ 2 แสนจุด ทำให้เชียงใหม่เผชิญวิกฤติหมอกควัน