กรณี นายเกียรติคุณ ต้นยาง (ทนายโป้ง) ประธานชมรมทนายจิตอาสา รับร้องเรียนจาก นายกิตติธัช (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี พ่อน้องพอร์ช (สงวนชื่อสกุลจริง) เด็กชายวัย 1 ขวบ 8 เดือน ช่วยเหลือดำเนินคดีกับพี่เลี้ยงที่ทำให้น้องพอร์ชเสียชีวิต หลังคาใจลูกเสียชีวิตสาเหตุไหลตาย ทั้งที่ตามร่างกายมีรอยฟกช้ำหลายแห่ง ก่อนพาเข้าแจ้งความตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ไว้เป็นหลักฐานพร้อมขอนำร่าง น้องพอร์ช ชันสูตรพลิกศพอีกครั้งที่ รพ.รามาธิบดี ผลออกมาเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายร่างกาย ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
พ่อแม่ใจสลาย! จ้างสาวเลี้ยงลูกชายวัยขวบเศษ จู่ๆดับปริศนา-ร่างฟกช้ำ
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 29 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดบางพูดนอก ถนนสุขาประชาสรรค์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีพิธีฌาปนกิจศพ น้องพอร์ช ท่ามกลางความโศกเศร้าของพ่อแม่และญาติๆที่มาร่วมงาน โดยนายกิตติธัช พ่อน้องพอร์ช กล่าวว่า รู้สึกเสียใจเพราะต้องเห็นหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้าย และต้องเสียใจ 2 ต่อ เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของตนแต่ต้องมาเผาศพลูก ทำใจได้ยาก ส่วนเรื่องคดีความจะดำเนินให้ถึงที่สุดวันพรุ่งนี้จะไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติม
นายกิตติธัช กล่าวอีกว่า ส่วนพี่เลี้ยงวันนี้ทักมาบอกว่าต้องเข้าให้ปากคำกับตำรวจไม่สามารถมาร่วมงานเผาศพน้องได้ ตนจึงไม่ตอบอะไรกลับไป ทั้งนี้ อยากแนะนำพ่อแม่คนอื่นที่คิดจะเอาลูกไปฝากคนอื่นเลี้ยงให้คิดดีๆ เพราะไม่มีใครรักลูกเราเท่าตัวเรา ส่วนเรื่องโรงพยาบาลที่ลงในใบว่าชันสูตรครั้งแรกว่าน้องเสียชีวิตเพราะไหลตาย จะให้ทางทนายควาทดำเนินคดีเพราะสรุปผลการเสียชีวิตมาแบบนี้ได้อย่าง สุดท้ายนี้ฝากถึงลูกชายว่ารักหนูมาก อยากให้หนูไปสู่สุขติไม่ต้องห่วงอะไร ทางเราจะดำเนินเรื่องให้ถึงที่สุดเพื่อให้น้องไปสบาย
ผลชันสูตร ‘น้องพอร์ช’ถูกทำร้ายจนตาย พ่อแม่ใจสลาย!ลั่นดำเนินคดีพี่เลี้ยงถึงที่สุด
ทนายโป้ง กล่าวว่า เบื้องต้นปรึกษากับทางพ่อแม่น้องและได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาว่าวันที่เกิดเหตุมีคนอยู่ในเหตุการณ์ 3 คน โดยมีพี่เลี้ยงสามีพี่เลี้ยง และแม่สามีพี่เลี้ยง จึงต้องเข้าแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมคือร่วมกันทำร้ายร่างกายทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย วันนี้ต้องขอขอบคุณทางโรงพยาบาลรามาธิบดี ที่เป็นธุระให้ในการตรวจชันสูตรให้ความจริงปรากฏ และอีกเรื่องที่ทางโรงพยาบาลระบุสาเหตุการเสียชีวิตของน้องว่าไหลตาย แต่ความจริงคือถูกทำร้ายร่างกายจนตาย ตนจะเรียกร้องให้ทางโรงพยาบาลและคุณหมอที่ทำใบรับรองการตายรวมถึงแพทย์สภาให้ออกมารับผิดชอบ เพราะหนังสือใบรับรองการตายที่จะมีผลต่อคดี
