เมื่อวันที่ 29 ส.ค. พ.อ.สุวัฒน์ ทองใบ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหาราบที่ 25 ได้รับรายงานจากทหารกองกำลังเทพสตรีชุดปฏิบัติการพิเศษ ที่ร่วมกับกำลังกองร้อยทหารราบที่ 2521 ชุดเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 ว่ามีการลักลอบนำสิ่งของผิดกฎหมายจากประเทศเมียนมาเข้ามาส่งยังฝั่งไทยตามแนวช่องทางธรรมชาติ พื้นที่บ้านจอมแห หมู่ 8 ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง ซึ่งจุดดังกล่าวมักถูกใช้เป็นจุดขนถ่ายสินค้าผิดกฎหมายอยู่เป็นประจำ เนื่องจากเป็นพื้นที่ห่างไกลชุมชน และเป็นพื้นที่ต้นแม่น้ำกระบุรี
จึงจัดส่งกำลังทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบออกลาดตระเวนตรวจสอบ โดยทหารชุดนอกเครื่องแบบทำการแทรกซึมเข้าไปในพื้นที่ ให้ชุดในเครื่องแบบออกทำการออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนปกติพร้อมทำการซุ่มโป่งตามพิกัดเป้าหมาย กระทั่งมาถึงท่าน้ำซอยจอมแห จุดท่าเรือทางธรรมชาติที่มีการปรับพื้นที่ท่าน้ำริมคลองมีแม่น้ำกระบุรีกั้นระหว่างชายแดนไทยกับเมียนมา กว้างประมาณ 30 เมตร มีท่าธรรมชาติที่เรือสามารถเข้าจอดได้และรถยนต์สามารถจอดถึงริมฝั่งน้ำหน้าท่าได้
ต่อมาเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นกลุ่มคนทั้งชาวไทยและชาวเมียนมา กำลังขนถ่ายสิ่งของบ้างอย่างจากเรือหางยาวขึ้นใส่ท้ายรถกระบะ จึงถ่ายคลิปภาพเหตุการณ์ไว้เป็นหลักฐานก่อนเข้าตรวจสอบ แต่กลุ่มคนดังกล่าวเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ต่างรีบกระโจนหนีลงน้ำที่ไหลเชี่ยวว่ายตามน้ำข้ามฝั่งไปยังฝั่งประเทศเมียนมา จากนั้นยืนมองคอยสังเกตการณ์ดูเจ้าหน้าที่ฝั่งทหารไทย เข้าดำเนินการตรวจสอบยึดของกลางโดยไม่ยอมกลับเข้ามาแสดงตน เพราะส่วนใหญ่เป็นขบวนการขนยางพาราผิดกฎหมายเข้าเมืองต่อเนื่องและเคยถูกดำเนินคดีและจับกุมมาก่อนหน้านี้
จากการตรวจสอบรถกระบะ โตโยต้าไฮลักซ์ แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พบยางพาราแผ่นเกือบเต็มคันรถ ส่วนเรือหางยาวพบยางแผ่นพาราอีกจำนวนหนึ่ง รวมแล้วน้ำหนักประมาณกว่า 2.5 ตัน ส่วนกลุ่มคนที่กระโจนว่ายน้ำหนีไปฝั่งเมียนมามีทั้งหมด 7 คน คาดว่าจะมีทั้งคนไทยที่มารับและชาวเมียนมาที่มาส่งยางพาราดังกล่าว จึงยึดทั้งหมดไว้เป็นของกลาง พร้อมนำรถกระบะไปตรวจสอบผู้ครอบครองเพื่อติดตามมาสอบสวนมีความเกี่ยวข้องอย่างไร ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป