เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566 ว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนตามระเบียบระบบข้อกฎหมาย ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดไม่ได้ ที่ทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงพระปรมาภิไธยตามที่รัฐบาลทูลเกล้าฯ เสนอขึ้นไป

เมื่อถามว่า นายกฯ มีอะไรจะพูดหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไร ก็ขอขอบคุณทุกคน โดยเฉพาะสภาผู้แทนราษฎร ที่ช่วยทำงาน 4 ปี ซึ่งมีทั้งสำเร็จบ้างและไม่สำเร็จบ้างก็ต้องขอขอบคุณ เพราะทุกคนทำเพื่อประเทศชาติและประชาชน ไม่ได้ขัดแย้งอะไรใครทั้งสิ้น ส่วนหลังจากนี้การลงพื้นที่หาเสียง จะมีรูปแบบอย่างไรนั้น ทางพรรคจะเป็นคนวางแผน มีทั้งการหาเสียงใหญ่หาเสียงย่อยอะไรเยอะแยะไปหมด ตนก็เวียนหัวเหมือนกัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนพอใจหรือไม่ผลงาน 4 ปีที่ผ่านมานั้น ถ้าถามตนคงตอบไม่ได้ ต้องถามประชาชนพอใจหรือไม่ ได้รับอะไรไปมากน้อยเพียงใด เขาเห็นหรือเปล่า หรือไม่สังเกตเห็น ก็ไม่รู้เหมือนกัน ซึ่งฝากไปดูด้วย เราทำมากพอสมควรหลายปีที่ผ่านมา ส่วนเรื่องที่ตั้งใจจะทำแล้วยังไม่ได้ทำมีหลายเรื่อง แต่อย่าเพิ่งพูดตอนนี้ เพราะหลายเรื่องพยายามทำแต่ติดขัดหลายอย่าง เรื่องข้อกฎหมายต่างๆ ยังมีปัญหาและค้างคาอยู่หลายเรื่องเช่นกัน ซึ่งก็หวังอย่างยิ่งว่ารัฐบาลหน้าจะทำให้เรียบร้อย

สำหรับสิ่งที่ทำให้ภูมิใจที่สุดตั้งแต่ทำหน้าที่นายกฯ มา 8 ปีนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ภูมิใจก็คือขอบคุณในความร่วมมือของทุกคน โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งหลายอย่างที่ออกมาเป็นนโยบายของแต่ละพรรค รัฐบาลทำไปแล้วทั้งหมด แต่ก็ไปแยกย่อยกันในขณะนี้ รวมทั้งการจะให้อะไรต่างๆ ก็มีหมดแล้ว มีสมัยรัฐบาลนี้และร่วมมือกันออกมาเป็นมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่เช่นนั้นก็ทำไม่ได้ ซึ่งวันหน้าการจะทำอะไรก็ตามต้องเป็นอย่างนี้ นโยบายต่างๆ ต้องหารือใน ครม. อีกครั้ง ในเรื่องที่จะให้ใครอะไรอย่างไรเท่าไหร่ และไปดูมาตรการต่างๆ ด้วย หาเงินได้มากน้อยเพียงใด เพียงพอหรือไม่ ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมา ตนก็ดีใจว่าอย่างน้อยก็ได้สร้างสิ่งดีๆ ขึ้นมา สิ่งที่จะเป็นรายได้ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอีอีซี หรือการสร้างอุตสาหกรรมใหม่อะไรต่างๆ ที่มีการลงทุนจำนวนมาก และมีความก้าวหน้าหลายอย่าง

“ขอบคุณสื่อด้วยแล้วกัน เราก็ไม่ใช่ศัตรูกันอยู่แล้วนี่ บางครั้งนายกฯ อาจจะหงุดหงิดไปบ้าง อะไรบ้าง เพราะทำงานเยอะ เครียดบ้าง อะไรบ้าง แต่ไม่ได้โกรธใคร” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมานายกฯ ได้อะไรจากการเมืองบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คงต้องได้มั้ง เพราะนายกฯ ทำงานกับการเมือง ยังไงก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นนักการเมืองอยู่เหมือนกันในการบริหาร นายกฯ ใช้อำนาจบริหารสิ่งต่างๆ ที่ออกมาได้ นายกฯ เป็นคนตัดสินใจ ไม่ว่าอะไรก็ตามเสนออะไรมา นายกฯ ตัดสินใจสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งที่สมควรและนำเข้าสู่ ครม. หากพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคไม่เห็นด้วยก็ผ่านไม่ได้ ทั้ง ครม. ต้องเห็นชอบด้วยกัน

พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธตอบคำถามว่าจะลง ส.ส.บัญชีรายชื่อหรือไม่ โดยระบุว่า ยังไม่ตอบในตอนนี้ และเมื่อถามถึงอนาคตทางการเมืองหลังการยุบสภาแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การเมืองก็เป็นแคนดิเดตฯ ก่อนก็แล้วกัน

เมื่อถามว่า หลังจากนี้กับพรรคร่วมรัฐบาลจะเดินหน้าทำงานร่วมกันอย่างไรบ้างในส่วนของการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เหมือนเดิม จะยากตรงไหน การเมืองมันไม่มี วันนี้เป็นเรื่องของรัฐบาลในการทำงาน เป็นการทำงานใน ครม. ทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนโดยรวม ไม่ได้ทำเพื่อการเมือง ถ้าทำเพื่อการเมือง มันทำไม่ได้ ส่วนในสนามเลือกตั้งก็อีกเรื่องหนึ่งต้องแยกแยะ

เมื่อถามว่าการตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางการเมือง ทางครอบครัวมีการสนับสนุนให้กำลังใจอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เป็นเรื่องที่ให้ผมเป็นคนตัดสินใจ แต่แน่นอนครอบครัวต้องเป็นห่วง ไม่มีใครอยากให้สามีมาเป็นนักการเมืองเต็มตัว ไม่มีหรอก”

เมื่อถามว่า นางนราพร จันทร์โอชา ภรรยาได้ให้คำปรึกษาอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ภรรยาผมเขาไม่ยุ่งเรื่องพวกนี้หรอก เขาดูแลสุขภาพเรา ดูแลด้วยความห่วงใย มีอะไรก็เตือนมา ก็แค่นั้น ไม่ยุ่งกับเรา ไม่ยุ่งในเรื่องการเมือง”

เมื่อถามว่า แต่ในสนามการเมืองแข่งขันกันดุเดือด ภรรยาได้ส่งกำลังใจอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ให้กำลังใจตนตลอดอยู่แล้ว เป็นสามีภรรยาจะไม่ให้ได้อย่างไร

เมื่อถามว่าสนามเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของนายกฯ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า รัฐธรรมนูญเขียนว่าอย่างไร

ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติจะเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจำนวนกี่คน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ เมื่อถามต่อว่าจะมีชื่อสำรองหรือไม่ เพราะตามรัฐธรรมนูญ นายกฯ อยู่ได้แค่ถึงปี 2568 เท่านั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เดี๋ยวเขาก็หารือกันมาเอง เป็นเรื่องของพรรค”

ทั้งนี้ ในช่วงท้ายผู้สื่อข่าวระบุว่า นายกฯ ยังอยู่กับสื่ออีกนาน ขอให้เบาๆ หน่อย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอบว่า “สื่อก็เบาๆ หน่อยสิ”

นอกจากนี้ระหว่างที่นายกฯ จะเดินเข้าไปยังตึกไทยคู่ฟ้า สื่อมวลชนได้ถามนายกรัฐมนตรีว่า ไม่ถ่ายรูปร่วมกับสื่อมวลชนเป็นที่ระลึกหรือ พล.อ.ประยุทธ์ ถามกลับว่า “ก็นายกฯ คนเดิมนั่นแหละ” ก่อนที่จะเดินลงมาถ่ายรูปร่วมกับสื่อมวลชน โดยระหว่างถ่ายภาพ พล.อ.ประยุทธ์ ขอบคุณสื่อมวลชน พร้อมระบุว่า “เรารักกันอยู่แล้ว” และก่อนจะขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า พล.อ.ประยุทธ์ ได้นำมือสองมือชี้มาที่ตัวเอง ก่อนกล่าวว่า “มันก็นายกฯ คนเดิมนี่แหละ แหมตื่นเต้นไปได้ จะตื่นเต้นทำไม” และยังชูมือมินิฮาร์ต และไอเลิฟยู ก่อนเดินเข้าตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที.