เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.30 น. ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มคนร้ายขับขี่รถ จยย.ไม่ทราบสี ยี่ห้อ และทะเบียน โดยคนซ้อนท้ายจะใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงถล่มใส่บ้านเลขที่ 123 หมู่ 6 บ้านควนสระแก้ว ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมืองตรัง จ.ตรัง เป็นระยะติดต่อกันเสียงดังสนั่น ในขณะที่รถผู้ก่อเหตุยังเคลื่อนตัวอยู่ ก่อนที่คนร้ายจะขับรถหลบหนีไป

ต่อมา ร.ต.อ.อิทธิพล พูลเอียด รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองตรุด เดินทางลงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้พบปลอกกระสุนลูกซอง ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 4 ปลอก ตกอยู่บนถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน อยู่ในระหว่างรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง

ช่วงเช้าวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านเกิดเหตุ เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ซึ่งเปิดเป็นร้านค้าขายของชำ พบกับนายสงบ ยงประเดิม อายุ 67 ปี เจ้าของบ้าน อยู่ในอาการตื่นตกใจ นำผู้สื่อข่าวชี้จุดที่คมกระสุนเจาะเข้าฝาผนังปูน และเจาะทะลุเข้ากระจกบ้าน คมกระสุนยังเจาะทะลุเข้าไปถึงตู้เย็น และสิ่งของต่าง ๆ ที่ตั้งวางขายอยู่ ตรวจสอบพบรูกระสุนทั้งหมดประมาณ 36 รู ก่อนที่เพื่อนบ้านต่างทยอยเข้ามาให้กำลังใจไม่ขาดสาย และชาวบ้านก็ต่างหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายสงบ กล่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวมีภรรยาตนคือ นางคล้อย ยงประเดิม อายุ 65 ปี นอนอยู่ภายในห้องนอนกับหลานสาว อายุ 18 ปี ส่วนตัวตนนั้นนอนอยู่บ้านอีกหลังซึ่งอยู่ติดกัน ในขณะที่หลับได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ก่อนสุนัขจะเห่าสนั่น และได้ยินเสียงรถจยย. รีบขับหนีออกไป ตนจึงรีบเดินออกมาดูปรากฏว่าบ้านที่เป็นร้านค้าได้ถูกยิงถล่มแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ

นายสงบ กล่าวต่อว่า ซึ่งสาเหตุตนยังไม่ทราบเลยว่าเกิดจากอะไร และยืนยันว่าคนในบ้านซึ่งมีตน ภรรยา และหลานสาว ไม่เคยมีปัญหาและความขัดแย้งกับใครมาก่อน อยู่ทำมาหากินสุจริต จึงอยากฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายให้ได้ในเร็ววัน เพราะตอนนี้ยอมรับว่าหวาดกลัวอย่างมากและต้องทำมาหากิน เมื่อจับคนร้ายไม่ได้ก็ยังคงระแวง ซึ่งตอนเกิดเหตุภรรยาตนซึ่งอายุมากแล้ว ตกใจจนตัวสั่น และที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน

ขณะที่ นายสมพงษ์ ปกครอง อายุ 52 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ หมู่ 3 ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านคนสนิท กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวก็รีบมาดูเพราะเป็นห่วง และยังคงเป็นเครือญาติกันด้วย เบื้องต้นคาดว่าตั้งใจที่จะยิงข่มขู่ แต่ระดับที่ยิงก็ในระยะถึงชีวิตหากใครถูกคมกระสุน ซึ่งในพื้นที่นี้ก็มีเหตุการณ์ยิงบ้านขึ้นหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยมีความคืบหน้าหรือจับกุมคนร้ายได้ ชาวบ้านก็หวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะต้องออกกรีดยางพารากันกลางดึกและใช้ถนนสัญจรกันตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนได้เชิญตัวผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ไปสอบปากคำแล้วประมาณ 1-2 ปาก เพื่อที่จะสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.