เมื่อวันที่ 28 ส.ค. พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น รอง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.กฤษณะ หยาดคำ รอง ผกก.สส. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 และกำลังเจ้าหน้าที่ ควบคุมตัวนายเอก (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ชี้จุดฝังศพบุตรสาวอายุ 4 เดือน หลังได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต แล้วนำมาฝังในป่าช้า สำนักสงฆ์ทุ่งโศก หมู่ 9 ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ จากการสอบสวนปากคำในช่วงกลางดึกที่ผ่านมาของเจ้าหน้าที่ นายเอก ได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 11 ส.ค. ตนกับภรรยาทะเลาะกันเรื่องที่ภรรยาทุบตีบุตรสาวคนโต ตนจึงได้ทุบตีบุตรสาวคนเล็กบ้างเพื่อเป็นการเอาคืน รวมถึงนำเด็กลงไปกดหัวในอ่างน้ำด้วย เนื่องจากตนไม่ชอบบุตรสาวคนเล็กเพราะเชื่อว่าไม่ได้เป็นลูกของตัวเอง หลังจากทุบตีบุตรสาวจนสลบแล้ว ก็ได้นำไปให้ภรรยาในห้อง แล้วจึงออกจากบ้านพักไป จนกระทั่งช่วงดึกภรรยา ได้โทรฯ มาแจ้งให้ทราบว่าลูกสาวเสียชีวิต จากนั้นช่วงเช้าของวันที่ 12 ส.ค. จึงพร้อมด้วยภรรยา นำศพไปขอฝังที่สำนักสงฆ์ โดยแจ้งว่า เด็กเกิดอุบัติเหตุ แล้วพากันกลับบ้านพัก ส่วนภรรยาออกจากบ้านพักไปเมื่อวันที่ 17 ส.ค. โดยอ้างว่าจะไปส่งสินค้าให้กับลูกค้าแล้วหายตัวไป
ผัวขี้ยาจับ ‘ลูก4เดือน’กดน้ำสิ้นใจ จับเมียซ้อม บังคับให้ช่วยฝังศพหนีผิด
ด้านนางบี (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี มารดาของนายเอก กล่าวกับผู้สื่อข่าว ขณะเดินทางมาร่วมดูการขุดศพของหลานสาวว่า ทราบว่าลูกสะใภ้ออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากได้นำรถ จยย.ของย่านายเอก ไปส่งของแล้วหายตัวไป ตนจึงได้ไปตามหาที่บ้านก็ไม่พบลูกสะใภ้ และหลานทั้ง 2 คน เมื่อถามลูกชายก็อ้างว่าภรรยากลับไปบ้านแม่ยาย ตนจึงได้พยายามติดต่อไปยังนางซี เพื่อตามหารถ จยย. แต่นางซี บ่ายเบียง จนตนเกิดความสงสัย จึงได้เค้นถามลูกชายเมื่อวันที่ 26 ส.ค. และทราบว่าหลานเสียชีวิตและถูกนำมาฝังที่สำนักสงฆ์ ซึ่งตนก็กำลังจะเข้าแจ้งกับตำรวจให้เข้าตรวจสอบ และคิดว่าลูกสะใภ้มีส่วนร่วมในการก่อเหตุด้วย.