เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ห้องโถงชั้น 1 อาคารตำรวจภูธร จ.นราธิวาส พล.ต.ต.อนุรุธ อิ่มอาบ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.สมใจ สิงห์เกลี้ยง ผกก.สภ.แว้ง พ.ต.อ.ฉลอง เล็กน้อย ผกก.สภ.บูเก๊ะตา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 5 คน ในคดีร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงทำให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 4 ศพ เมื่อวันที่ 21-22 ก.พ. ที่ผ่านมา ประกอบด้วย 1.นายมาหะมะ สุวรรณอายิ หรือ วัง 2.นายอัสรี เจ๊ะกอ หรือ ยี 3.นายอีชัน เจ๊ะนาแว หรือ ปาดัง 4.นายณัฐวุฒิ แวอับดุลเลาะ หรือ มิง และ 5.นายเมธาวัตร อรุณ หรือ อาท ซึ่งเป็นน้องชายของนายเมธี อรุณ นักร้องดัง “วงลาบานูน”

สำหรับผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิต 3 คน คือ นายมาหะมะ นายอัสรี และนายอีซัน ใช้อาวุธปืนพก ขนาด 9 มม. และอาวุธปืนลูกซอง ส่วนผู้ที่นำศพไปทิ้งอำพราง หรือ ซ่อนเร้น จำนวน 2 คน คือ นายเมธาวัตร และนายณัฐวุฒิ หลังก่อเหตุแล้วเสร็จ นายเมธาวัตร นายณัฐวุฒิ และพวกอีก 2 คน ได้ร่วมกันเคลื่อนย้ายศพผู้เสียชีวิต 3 คน ใส่ท้ายรถยนต์เก๋ง วิ่งออกจากบ้านเกิดเหตุไม่มีเลขที่ ซึ่งตั้งอยู่ในสวนปาล์ม บ้านก่อซอ หมู่ 4 ต.แว้ง อ.แว้ง ก่อนนำไปทิ้งในบึงจือแร หมู่ 1 ต.แม่ดง เมื่อแล้วเสร็จ นายเมธาวัตร ได้กลับมาที่บ้านไม่มีเลขที่ดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในสวนปาล์ม โดยได้ใช้รถยนต์กระบะของตนเองยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำตาล ทะเบียน บง 4747 นราธิวาส ร่วมกับนายณัฐวุฒิ และเพื่อนหลบหนีอีก 2 คน ช่วยกันนำร่างของผู้เสียชีวิตขึ้นรถกระบะ แล้วนายเมธาวัตร ขับรถกระบะของตนเอง โดยมีนายอัสรี นั่งด้านข้าง นำศพไปทิ้งในแม่น้ำโก-ลก ช่วงบริเวณบ้านไอร์ปาเซ หมู่ 7 ต.ฆอเลาะ อ.แว้ง ซึ่งตลอดทางจะมีคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุ ซึ่งยังหลบหนี เป็นคนขี่รถ จยย. และมีนายอัสรี นั่งซ้อนท้ายไปตลอดทาง

พล.ต.ต.อนุรุธ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ให้การรับสารภาพ และประจักษ์พยานที่นำไปตรวจสอบตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ มีผลตรวจออกมาชัดเจนถึงพฤติกรรมของคนร้ายแต่ละคน ที่ตรวจสอบพบในบ้านจุดเกิดเหตุ ซึ่งมีทั้งคราบเลือด ปลอกกระสุนปืน รวมทั้งคราบลายนิ้วมือที่ติดไว้ตามบริเวณต่างๆ ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกให้การซัดทอด เจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดี

นอกจากนี้ ในส่วนของปมเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มาจากปัญหาส่วนตัว ที่กลุ่มของผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คน มีความขัดแย้งเรื่องส่วนตัวกับบุตรชายของนายมาหะมะ 1 ใน 3 มือปืน ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านไม่มีเลขที่ที่ตั้งอยู่ในสวนปาล์ม หลังจากที่นายมาหะมะ ทราบเรื่อง จึงได้โทรศัพท์พูดคุยกับ 4 ผู้เสียชีวิต และทั้ง 4 คน ได้ร่วมเดินทางออกมาจาก อ.สุไหงโก-ลก เพื่อไปพบกับนายมาหะมะ ที่บ้านจุดเกิดเหตุ และได้มีการพูดคุยกัน แต่ไม่สามารถจะตกลงกันได้ นายมาหะมะ และพวก จึงได้ใชอาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คน คาบ้านพัก ก่อนช่วยกันอำพรางศพไปทิ้งที่บริเวณดังกล่าวทั้ง 2 จุด จนมาถูกจับกุม.