จากสถานการณ์ไฟป่าที่ลุกไหม้ในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านและลามเข้ามายังฝั่งจังหวัดตราด ในพื้นที่ต.นนทรีย์ อ.บ่อไร่ และลุกลามเข้ามาไหม้ในต.ด่านชุมพล อ.บ่อไร่ จ.ตราด และมีแนวโน้มลุกลามเข้ามายัง 2 ตำบล ในเขตอำเภอเมืองตราดที่อยู่ใกล้ ทำให้ทางจังหวัดตราดได้ประสานขอความช่วยเหลือจากกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) เพื่อขอเฮลิคอปเตอร์มาช่วยดับไฟป่า

ความคืบหน้าวันที่ 5 มี.ค. ที่อ่างเก็บน้ำด่านชุมพล ต.ด่านชุมพล อ.บ่อไร่ จ.ตราด พลเรือตรีเทิดเกียรติ จิตต์แก้ว รอง ผบ.กปช.จต. พร้อมคณะและนักบินเดินทางมาที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สถานการณ์ไฟป่าบ้านทับทิมสยาม ต.ด่านชุมพล มีนายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด นายสุเมธ ตะเพียนทอง ปลัดอำเภอบ่อไร่ รักษาการนายอำเภอบ่อไร่ นายพสวัฒน์ โชติวัฒน์พงษ์ชัย หน.อุทยานน้ำตกคลองแก้ว และนาวาเอก เป็นธรรม ปัทมชินาลัย หัวหน้าชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 1 ต้อนรับ และบรรยายสรุปถึงสถานการณ์ไฟป่า

โดยสถานการณ์ล่าสุด ไฟป่ายังไหม้ลุกลามลงมายังพื้นที่ราบและลึกเข้ามายังพื้นที่ต.ด่านชุมพลในช่องกระดูกช้าง และช่องคลองปูนเปียก และมีแนวโน้มที่จะขยายวงกว้างมากขึ้นอีก โดยเฉพาะอาจะเข้ามายังพื้นที่ต.ท่ากุ่ม และต.ตะกาง ในเขตอำเภอเมืองตราด นอกจากนี้ในพื้นที่ต.นนทรีย์ ต.ด่านชุมพล และต.ท่ากุ่ม ยังมีโขลงช้างที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ได้รับผลกระทบจากไฟป่า และได้เดินทางหลบหนีออกมาจากพื้นที่ไฟไหม้แล้วตามสัญชาตญาณ แต่ไม่ได้รับอันตรายใดๆ

หลังประชุมรับฟังสถานการณ์ทั้งหมดแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด รองผบ.กปช.จต. และนายอำเภอบ่อไร่ได้มอบสิ่งของให้หน่วยงานต่างๆ ที่เข้าร่วมดับไฟป่าในครั้งนี้ พร้อมเดินทางไปลานจอดเฮลิคอปเตอร์เพื่อชมปฏิบัติการดับไฟป่า

ผู้ว่าฯ ตราด กล่าวว่า จากไฟป่าที่เริ่มไหม้มาตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ. ในพื้นที่บ้านเนิน 400 ต.นนทรย์ อ.บ่อไร่ และลุกลามเข้ามาที่พื้นที่บ้านมะม่วงและลุกลามมาที่ต.ด่านชุมพลจนถึงวันนี้ และได้ลุกลามไปที่ช่องกระดูกช้าง ช่องคลองปูนเปียก และช่องเจ้าพระยา ซึ่งทำให้ทางศูนย์บัญชาการฯ ต้องเร่งทำทางกันไฟไม่ให้ลุกลามไปอีก เพราไม่เช่นนั้นจะลามเข้ามาที่ต.ท่ากุ่ม ในเขตอ.เมือง ซึ่งจะยุ่งยากและเกิดผลกระทบมากขึ้น ทำให้ทางจังหวัดต้องขอความช่วยเหลือจาก กปช.จต. เพื่อนำเฮลิคอปเตอร์มาช่วยเหลือและควบคุมเพลิง

ขณะที่พลเรือตรีเทิดเกียรติ กล่าวว่า จากการที่นำเฮลิคอปเตอร์มาลงและได้สำรวจพื้นที่แล้วพบว่า การดับเพลิงโดยใช้เฮลิคอปเตอร์จะประสบความสำเร็จขึ้นกับสภาพแวดล้อมในพื้นที่และกระแสลมด้วย ซึ่งภารกิจครั้งนี้จะไม่กระทบด้านสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันสถานการณ์แวดล้อมคือกระแสลมหลังจากวันที่ 7 มี.ค. กระแสลมจะพัดไปยังฝั่งกัมพูชาซึ่งจะทำให้ฝั่งจ.ตราด ได้รับผลกระทบลดลงเพราะเชื้อไฟได้หมดลงแล้ว อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อไร เพราะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทิศทางลม

หลังจากนั้น เฮลิคอปเตอร์ได้ขึ้นตักน้ำจากอ่างเก็บน้ำด่านชุมพลแล้วนำไปดับไฟที่ลุกไหม้เพื่อสาธิตการทำงานดับไฟป่าให้ทุกคนเห็นการปฏิบัติหน้าที่ และเดินทางกลับในเวลา 18.00 น.