สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ว่ากระทรวงสาธารณสุขของสหรัฐรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เกี่ยวกับข้อมูลการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในประเทศ นับตั้งแต่เชื้อไวรัสเดลตากลายเป็นสายพันธุ์หลัก และขยายรัศมีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ว่าสถิติผ่านหลัก 100,000 คน สูงที่สุดนับตั้งแต่สถิติ เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ปีนี้ ซึ่งสหรัฐมีผู้ติดเชื้อต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 132,051 คน
U.S. coronavirus hospitalizations hit eight-month high over 100,000 https://t.co/casYSOObpd pic.twitter.com/ix76i5aYbU
— Reuters (@Reuters) August 27, 2021
ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในโรงพยาบาลทั่วสหรัฐ เคยลดต่ำลงเหลือเพียง 13,843 คน เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า เป็นผลจากการรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนทั่วประเทศ เมื่อช่วงต้นปีนี้
Florida just reached 3 million COVID cases, a total surpassed by only 2 other states and 15 *countries* in the entire world.
— The Recount (@therecount) August 24, 2021
Of the 17,000 Floridians currently hospitalized with the virus, 90% are unvaccinated. pic.twitter.com/tevjOyAzNO
สำหรับรัฐที่มีจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสมในโรงพยาบาลมากที่สุด อยู่ในภูมิภาคทางใต้ของสหรัฐ ซึ่งยังคงมีอัตราการฉีดวัคซีนอยู่ในระดับต่ำ นำโดยฟลอริดา ตามด้วยเทกซัส และแคลิฟอร์เนีย มีสัดส่วนผู้ป่วยรวมกันคิดเป็น 32% ของทั้งประเทศ ขณะที่ประมาณ 2.3% ของผู้ป่วยในโรงพยาบาลตอนนี้เป็นเด็ก ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับวัคซีน เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐยังไม่อนุญาตให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีน.
เครดิตภาพ : REUTERS