เมื่อวันที่ 1 มี.ค. กรมอุตุพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส แต่ยังคงทำให้ภาคเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า ส่วนตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งในระยะนี้ไว้ด้วย 

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันเริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง 

00:00 น. วันนี้ ถึง 00:00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ

อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า และมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน 
โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส 
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-14 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 12-20 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง

อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ 
ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพฯ และปริมณฑล

มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส 
อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส 
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.