จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดี จับกุม พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ “ผู้กำกับโจ้” ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ผู้ต้องหาใช้ถุงคลุมศีรษะผู้ต้องหาคดียาเสพติด เพื่อเรียกรับเงินแต่เกิดพลาดทำผู้ต้องหาเสียชีวิต เอาไว้ได้ขณะหลบหนีไปกบดานในเซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง ที่เมียวดี ประเทศเมียนมา โดยหลบหนีออกทางเส้นทางธรรมชาติไปเมื่อช่วงหลังเที่ยงวันที่ 25 ส.ค. ผ่านการช่วยเหลือหลบหนีจากคนมีสีและเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ก่อนนำตัวมายังกองบังคับการปรามปราม (บก.ป.) เพื่อให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.สอบปากคำ ก่อนแถลงข่าว ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 21.45 น. วันที่ 26 ส.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี ร่วมกับแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ ให้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ โฟนอินเข้ามาตอบคำถามต่อสื่อมวลชน โดยเจ้าตัวบอกว่าเต็มใจจะตอบคำถามสื่อมวล ไม่ได้โดยบังคับ มีทนายความส่วนตัว และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ด้วย
พ.ต.อ.ธิติสรรค์ กล่าวว่า ขออนุญาตพูดถึงเรื่องข้อหาที่ถูกดำเนินคดีนั้น ตนขออนุญาตให้การในชั้นศาล แต่จะเล่าข้อเท็จจริงให้ฟังคือ ลูกน้องแจ้งว่า จับยาเสพติดมาได้ เจอโทรศัพท์ที่เพิ่งถ่ายรูปไว้ก่อนหน้านี้ 2 ชม. ยาไอซ์ 1 กก. ยาบ้าเกือบ 2 หมื่นเม็ด เห็นว่าเป็นเคสใหญ่จึงลงไปดูเอง พยายามสอบถามแล้ว ก็ไม่ยอมบอก ยอมรับว่าสิ่งที่ทำไปนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่ที่ทำไปเพราะต้องการเอาข้อมูลมา ทำลายยาเสพติดที่ทำลายชีวิตประชาชนชาวนครสวรรค์
ผกก.โจ้ กล่าวต่อว่า เรื่องทั้งหมด ตนสั่งลูกน้องให้ทำเอง ขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ทำไปเพราะต้องการทำงาน เรื่องเงินไม่มี ไม่มีการเรียกรับเงิน ส่วนเรื่องเอาถุงคลุมหน้านั้น เจตนาคือไม่ต้องการให้ผู้ต้องหาเห็นหน้า จึงเอาถุงคลุม แต่เนื่องจากผู้ต้องหาพยายามเอามือมาฉีกถุง เลยเอามือไพล่หลัง ไม่งั้นก็จะฉีกถุงอีก ยืนยันว่า ไม่เคยทำมาก่อน เพิ่งทำเป็นครั้งแรก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมผู้ต้องสลบไปจึงไม่แจ้งผู้บังคับบัญชา พ.ต.อ.ธิติสรรค์ กล่าวว่า ทำอะไรไม่ถูก ให้ลูกน้องมาช่วยปั๊ม ทำซีพีอาร์ แล้วส่งรพ. เรื่องเสพยาเสพติดเกินขนาดนั้น ตนคุยกับแฟนผู้ต้องหาก็ทราบว่า เสพยาแต่ละวันปริมาณเยอะจริง และพักผ่อนน้อย ไม่ได้นอน คากว่าจะเกิดจากสาเหตุนี้
“ยอมรับว่าผมผิด ไม่ว่าศาลจะตัดสินอย่างไร จะจำคุกผมตลอดชีวิต ก็ยอมรับผิดทุกประการ แต่ขอให้การว่า ไม่ได้มีเจตนาฆ่าผู้ต้องหา ต้องการทำงาน ไม่ให้พี่น้องประชาชนติดยาเสพติดครับ” ผกก.โจ้ กล่าว