เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นายวัชระ อายุ 40 ปี นักธุรกิจหนุ่มผู้เสียหาย หลังจากถูกมิจฉาชีพหลอกดูดเงินออกจากบัญชี 16 ล้านบาท นำเอกสารหลักฐานเข้าพบ ร.ต.อ.นิธิวิทย์ สัตตธนชัยภัทร รอง สว.(สอบสวน) กก.4 บก.สอท.2 เพื่อสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานในการติดตามกลุ่มบุคคลที่ร่วมขบวนการและเส้นทางการเงินที่ถูกดูดออกจากบัญชีไปยังบัญชีม้าของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 ดำเนินการในเรื่องนี้แล้วพร้อมให้กำชับทางพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียด เบื้องต้นทางผู้เสียหายได้ถูกคนร้ายโทรศัพท์มาหา อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ พูดชักชวนให้ผู้เสียหายอัปเดตข้อมูลของตัวเอง จากนั้นได้ส่งลิงก์ปลอมของกรมธุรกิจพาณิชย์ (DBD) ให้ทางผู้เสียหายกรอกข้อมูลส่วนตัว

หลังจากผู้เสียหายหลงเชื่อกรอกข้อมูลเสร็จสิ้นกดยืนยัน ภายในช่วงเวลา 10 นาที เงินของผู้เสียหายมีการทำรายการถอนออกจากบัญชีของธนาคารไทยพาณิชย์ รวม 9 ครั้ง รวมเป็นเงิน 15.8 ล้านบาท ออกไปยังบัญชีม้าของกลุ่มคนร้าย จากนั้นเคลื่อนไหวกระจายไปยังบัญชีแถว 1 ถึงแถวที่ 5 รวมกว่า 20 บัญชี ก่อนจะไปสิ้นสุดที่บริษัทแห่งหนึ่งที่เปิดบังหน้า แล้วโอนเปลี่ยนสภาพเป็นสกุลเงินคริปโต อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องที่พบความเชื่อมโยงในเรื่องนี้มาสอบปากคำเพื่อดำเนินการต่อไปแล้ว

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. กล่าวในโพสต์เตือนภัยเรื่องนี้ว่า ปัจจุบันยังคงพบว่ามีประชาชนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพอย่างต่อเนื่อง โดยปรากฏเป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ กรณีผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ ออกอุบายให้ผู้เสียหายติดตั้งแอปพลิเคชันของหน่วยงาน เพื่อเป็นการอัปเดตข้อมูลนิติบุคคล และงบการเงินของบริษัทผู้เสียหาย จากนั้นมิจฉาชีพได้ให้ผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนทางไลน์แล้วส่งลิงก์ให้ติดตั้ง ผู้เสียหายหลงเชื่อติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมดังกล่าว ตั้งค่าโทรศัพท์ตามที่มิจฉาชีพแจ้ง กระทั่งทำให้เงินถูกโอนออกจากบัญชีหลายครั้ง สูญเสียเงินหลายล้านบาท

ทั้งนี้ จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงแนวทางการป้องกันเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพดังต่อไปนี้
1.ไม่กดลิงก์ใด ๆ ที่แนบมากับข้อความสั้น (SMS หรือกดลิงก์ติดตั้งแอปพลิเคชันต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไฟล์ .apk เพราะอาจเป็นการดักรับข้อมูล หรือการฝังมัลแวร์ (Malware) ของมิจฉาชีพ
2.ไม่ติดตั้งโปรแกรม หรือแอปพลิเคชันที่ผู้อื่นส่งมาให้โดยเด็ดขาด แม้จะป็นโปรแกรม หรือแอปพลิเคชันที่รู้จักก็ตาม เพราะอาจเป็นแอปพลิเคชันปลอม โดยหากต้องการใช้งานให้ทำการติดตั้งจากแหล่งที่เชื่อถือ และเป็นทางการเท่านั้น ได้แก่ App Store และ Play Store
3.โดยปกติหน่วยงานภาครัฐไม่มีนโยบายที่จะติดต่อประชาชนทางโทรศัพท์ หรือทางการส่งข้อความสั้น (SMS) หากมีการติดต่อ ให้ขอรายละเอียดที่เกี่ยวข้องไว้ เพื่อติดต่อกลับหน่วยงานนั้น ๆ ด้วยตนอง และตรวจสอบนโยบายของหน่วยงาน