โครงการจัดการแข่งขันกีฬามวยไทยอาชีพ เพื่อพัฒนามวยไทยรากหญ้า 3 จังหวัดชายแดนใต้ และประเทศมาเลเซีย “ศึกวาสุกรี ไฟท์” สร้างสุขกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนใต้ จัดโดยกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ประสานความร่วมมือกับสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดปัตตานี, สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนราธิวาส, สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดยะลา และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจัดขึ้นที่บริเวณ ณ ที่ว่าการอำเภอสายบุรี จ.ปัตตานี

ภายในงานได้รับเกียรติจาก นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 รอง ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า, ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ, นายพรรณภพ อุ่นเสียม ผู้อำนวยการสำนักงาน กกท. ภาค 4 พร้อมทุกภาคส่วนในพื้นที่ ตลอดจนนักกีฬาและประชาชนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง เข้าร่วมชมมากกว่าหมื่นคน

ดร.สุปราณี คุปตาสา เผยว่า ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่ทำให้การแข่งขันกีฬามวยไทยอาชีพ เพื่อพัฒนามวยไทยรากหญ้า 3 จังหวัดชายแดนใต้ และประเทศมาเลเซีย ทำให้ “ศึกวาสุกรี ไฟท์” ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่เลยทีเดียว

พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ กล่าวว่า อยากจะขอขอบคุณแทนพี่น้องประชาชนต่อคณะกรรมการจัดการแข่งขัน โดย กองทัพภาคที่ 4 และ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ให้ความสำคัญกับการใช้กีฬามาเป็นเครื่องมือสร้างภูมิคุ้มกันให้กับพี่น้องประชาชน ตนมั่นใจว่าผลจากการจัดกิจกรรมครั้งนี้ จะพัฒนาศักยภาพด้านการกีฬาสู่ความเป็นเลิศ และเป็นรากฐานที่สำคัญในการสร้างความรักความสามัคคี สร้างความเข้าใจระหว่างพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป

ทั้งนี้ กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) สนับสนุนโครงการจัดการแข่งขันกีฬามวยไทยอาชีพ เพื่อพัฒนามวยไทยรากหญ้า 3 จังหวัดชายแดนใต้ และประเทศมาเลเซีย ภายใต้ชื่อว่า “ศึกวาสุกรี ไฟท์” สร้างสุขกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนใต้ โดยให้ความสำคัญคือ การเปิดโอกาสให้นักมวยไทย ค่ายมวยจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งการแข่งขันชกมวยไทย เพื่อพัฒนาการกีฬามวยให้มีศักยภาพ รวมทั้งสู่ความเป็นเลิศ และยกระดับสู่การเป็นนักมวยมืออาชีพในอนาคต และจัดให้การแข่งมวยไทย นักมวยชายแดนภาคใต้ ประกบมวยไทยมาเลเซีย และมวยระดับเงินแสน ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศอีกหลายคู่

สำหรับการจัดการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นการสร้างโอกาสทางด้านกีฬา มวยไทยให้กับนักกีฬารากหญ้าในพื้นที่ได้มีเวทีแสดงความสามารถ และการได้ชมศักยภาพความสามารถของนักมวยรวมทั้งยังนำนักกีฬามวยไทยอาชีพชั้นนำระดับประเทศ จะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เกิดขึ้น รวมถึงการมอบความสุข และสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดปัตตานี และพื้นที่ชายแดนใต้ ตามนโยบายรัฐบาล ในการใช้กีฬาเป็นสื่อในการสร้างซอฟต์เพาเวอร์ด้านกีฬา ให้กับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นอย่างมาก อีกทั้งที่สำคัญมีนักมวยจากประเทศมาเลเซียเข้าร่วมการแข่งขันด้วย ถือเป็นความสัมพันธ์ที่ดีเชื่อมโยงระหว่างประเทศอีกทางหนึ่งด้วย