จากกรณีข่าวสูญเสีย “เสือวิจิตร” เสือโคร่งสายเลือดแห่งป่าห้วยขาแข้ง ล่าสุดเฟซบุ๊ก @Thailand Tiger ProJect DNP กลุ่มนักวิจัยเรื่องเสือโคร่ง สถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้ออกมาโพสต์ถึงเรื่องราวของเสือวิจิตร ระบุว่า “ความไม่พร้อม เป็นคำที่มักใช้สื่อความหมายในเชิงลบมากกว่าเชิงบวก และเป็นสถานการณ์ที่มนุษย์หลายคนไม่อยากพบเจอ หรือหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญ วิจิตร เสือโคร่งสายเลือดแห่งป่าห้วยขาแข้ง เป็นอีกชีวิตหนึ่งที่ไม่มีสิทธิหลีกเลี่ยง ความไม่พร้อม

วิจิตร เป็นลูกชายตัวเดียวของเลือดเนื้อระหว่างเอื้องกับธนากร โดยในครอกพี่น้องมีตัวเมียประกอบด้วย อภิญญาและผกา ที่เติบโตมาในพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์กีบนานาชนิดไล่เรียงตามขนาดตั้งแต่ เก้ง หมูป่า กวางป่า วัวแดง และ กระทิง แต่เมื่อย่างเข้าสู่วัยที่ต้องการโปรตีนจากเนื้อสัตว์มากกว่าน้ำนมจากเต้านมแม่เพื่อการเจริญเติบโต วัวแดงจึงเป็นชนิดอาหารหลักที่แม่เอื้องลงแรงเพื่อแลกกับการเจริญเติบโตของลูกทั้งสาม

ในทุกๆ ครั้งของการล่าเหยื่อของแม่เสือโคร่งเพื่อเป็นอาหารเลี้ยงลูกนั้น โอกาส และ ความเสี่ยง เป็นสถานการณ์ที่มักมีวิถีตีคู่มาพร้อมๆกันเสมอ แล้วแต่ว่าสิ่งใดจะถึงเส้นชัยก่อนเท่านั้นเอง สำหรับแม่เอื้องก็เช่นกันแม้ว่าประสบการณ์ที่สะสมมาจากการหาเลี้ยงดูลูกมาหลายครอก โอกาสจึงเป็นสิ่งที่แม่เอื้องได้เอื้อมถึงก่อนที่ ความเสี่ยง จะเดินทางมาถึง จึงทำให้ลูกครอกก่อนๆ นั้นมีการเติบโตแบบปกติ

ทว่าในช่วงเวลาของการเลี้ยงดูลูกครอกวิจิตรทั้งสามนั้น มีเพียงครั้งเดียวที่ ความเสี่ยง ได้เกิดขึ้นเมื่อครั้งมันลงมือล่าวัวแดงขนาดใหญ่แล้วพลาดท่าได้รับบาดเจ็บที่ค่อนข้างรุนแรง เป็นเหตุให้การล่าอาหารเพื่อเลี้ยงดูลูกน้อยถูกขัดจังหวะด้วย ความไม่พร้อม ของร่างกายผู้เป็นแม่ หมูป่าขนาดย่อมๆจึงเป็นชนิดอาหารที่แม่พอใช้พละกำลังที่หลงเหลือจัดหาให้ได้เป็นอาหารเพียงแค่ติดท้องประทังความหิว ไม่เพียงพอต่อการที่จะทำให้เสือทั้งสามมีการเติบโตในเกณฑ์ระดับปกติทั่วไป เป็นเหตุให้นุดวิจัยตั้งฉายาว่า เสือแคระ ไม่เพียงแต่โครงสร้างร่างกายของ วิจิตร ถูกขัดจังหวะด้วยความไม่พร้อมในการหาเลี้ยงของแม่ การสูญเสียอำนาจของธนากร ผู้พ่อในช่วงปลายของชีวิต ทำให้เกิดความไม่พร้อมของชีวิตทับซ้อนขึ้นมาอีก

วิจิตรจึงเป็นเสือที่ใช้เวลาในการดำรงชีวิตในบ้านพ่อ แม่นานกว่าเสือวัยรุ่นอื่นๆ แต่ท้ายที่สุดแม้ว่า มันไม่พร้อมที่จะออกเผชิญโลก แต่ มันไม่อาจจะยื้อเวลาต่อไปได้เมื่อสิ้นแม่และพ่อไปจากบ้านที่เคยอบอุ่น การออกท่องโลกของมันสร้างกระแสความรับรู้เรื่องราวของเสือพเนจรนาม “วิจิตร” ให้เกิดขึ้นแก่คนไทยกลุ่มใหญ่ๆ ที่ทุกคนคอยติดตามและเอาใจช่วยให้มันได้มีบ้านอยู่อาศัยที่สงบสุข สามารถหาคู่ชีวิตที่จะสืบทอดเชื้อสายของ ธนากร ผู้พ่อ

โดยปลายทางสุดท้ายที่วิจิตรได้ค้นพบเมื่อออกจากบ้านแม่ที่ห้วยขาแข้งคือ ป่าแม่วงก์-คลองลาน ที่มันพบว่ายังมีพื้นที่ว่างให้มันได้จับจอง ซึ่งหลังจากครั้งนั้นเรื่องราวของมันก็เงียบหายไป ด้วยความคาดหวังว่า มันคงมีบ้านที่มีขนาดกว้างใหญ่และคงจะมีคู่ชีวิตอย่างน้อยหนึ่งตัวภายใต้การคุ้มครองพื้นที่อย่างดีจากเจ้าหน้าที่รัฐ แต่แล้วความคาดหวังไม่ได้กลายเป็นจริงเมื่อเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนได้พบเสือโคร่งขนาดใหญ่นอนหายใจรวยรินอยู่ข้างลำห้วยซึ่งท้ายที่สุดได้หมดลมหายใจไป ในสภาพที่เต็มไปด้วยริ้วรอย บาดแผล ที่คาดว่าเป็นเหตุแห่งการสิ้นลมครั้งนี้

ท้ายที่สุดได้ข้อสรุปว่ามันคือ วิจิตร เสือโคร่งที่เติบโตมาบนวิถีแห่งความไม่พร้อม แม้ว่ามันได้แสดงความกล้าหาญในการออกเดินทางและเหมือนว่าสามารถจับจองเลือกพื้นที่อยู่อาศัยได้ แต่ว่าสำหรับตัวผู้แล้วการมีคู่ชีวิตเพื่อสืบเชื้อสายของมัน เป็นสิ่งที่ถูกกระตุ้นให้มีความจำเป็นและสำคัญเหนือกว่าอาหารประทังชีวิต ในพื้นที่ที่มันเลือกจับจองมีชนิดสัตว์ที่เป็นอาหารอาศัยอยู่ แต่ไม่ได้เพียงพอสำหรับแม่เสือที่ต้องหาเลี้ยงดูลูกอีกอย่างน้อยสองตัว คงเป็นเหตุให้บ้านของวิจิตรนั้นเปลี่ยวเหงาเกินไป มันจึงต้องขยับขยายอีกครั้งเพื่อช่วงชิงจังหวะในการหาคู่เพื่อเป้าหมายของการมีชีวิตคือ การส่งถ่ายสายพันธุกรรมให้กับเสือรุ่นต่อไป

การแสวงครั้งนี้จึงนำมาซึ่งการเดินทางที่สิ้นสุด ซึ่งวิถีแห่งการสิ้นลมของมันก็ยังคงอยู่ในวังวนของ “ความไม่พร้อม” ซึ่งครั้งนี้ก็คือปริมาณเหยื่อที่ไม่เพียงพอต่อการอยู่อาศัยและเลี้ยงดูลูกเสือให้เติบใหญ่ของเสือตัวเมีย ความไม่พร้อม ทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นล้วนเป็นวิถีแห่งธรรมชาติ แต่ “ความร่อยหรอของสัตว์ที่เป็นเหยื่อ” เป็นความไม่พร้อมที่มนุษย์เราสามารถช่วยกันแก้ไขได้ ไม่ว่าจะเป็น การเลิกล่าสัตว์ป่าเพื่อยังชีพ การร่วมกันปกป้องไม่ให้เกิดการล่า

แต่ท้ายที่สุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงคงจะได้มีการหาแนวทางเพื่อการปกป้อง รวมถึงฟื้นฟูปริมาณสัตว์กีบที่เป็นเหยื่อในพื้นที่ป่าแม่วงก์-คลองลานให้มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น อย่างเป็นระบบและสอดคล้องวิถีธรรมชาติ เพื่อเป็นบ้านอีกหลังที่เสือโคร่งไทยสามารถจับจองอยู่อาศัย และสืบต่อสายพันธุ์ต่อไปนานเท่านาน #วิถีเสือผู้กล้านามวิจิตร #ขอบคุณความกล้า ที่จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง #เรื่องเล่าให้เข้าใจเสือ”…

ขอบคุณภาพและข้อมูล เฟซบุ๊ก @Thailand Tiger ProJect DNP