สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ว่าทำเนียบนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร บ้านเลขที่ 10 ดาวนิงสตรีท ออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่ารัฐบาลสหราชอาณาจักรขอประณาม บุคคลใดก็ตามซึ่งสร้างความเปรอะเปื้อนเสื่อมเสีย ให้กับเกิดขึ้นกับพระบรมรูปปั้น สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย และสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2

ทั้งนี้ รัฐบาลสหราชอาณาจักรมีความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจ ร่วมกับกลุ่มชนพื้นเมืองในแคนาดา สืบเนื่องจากรกณีการค้นพบสุสาน และหลุมศพนิรนาม ตามสถานที่ซึ่งเคยเป็นโรงเรียนประจำหรือโรงเรียนกินนอนในยุคอาณานิคม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหราชอาณาจักรติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และประสานงานอย่างต่อเนื่องกับรัฐบาลแคนาดา

ขณะที่นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในวันชาติของแคนาดา เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่าการค้นพบอันน่าเศร้าสลดใจซึ่งยังคงเกิดขึ้นนั้น บ่งชี้ “ความล้มเหลวทางประวัติศาสตร์” ของแคนาดา ซึ่งส่งผลสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ว่ากลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศ “ยังคงไม่ได้รับความเป็นธรรม”

สำหรับเหตุการณ์ที่รัฐบาลในกรุงลอนดอนอ้างถึงนั้น เกิดขึ้นที่เมืองวินนิเพ็ก เมืองเอกของรัฐแมนิโทบาทางตอนกลางของแคนาดา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันชาติของแคนาดา โดยประชาชนกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันประท้วง แล้วร่วมกันสาดสีใส่พระบรมรูปปั้น สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย และสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่อยู่บริเวณหน้าอาคารสภาแห่งรัฐ หลังจากนั้นร่วมกันดึงให้พระบรมรูปปั้นล้มลงมา

อนึ่ง รัฐบาลแคนาดาจัดการศึกษาแบบโรงเรียนประจำหรือโรงเรียนกินนอน สำหรับกลุ่มชาติพันธุ์ ยาวนานต่อเนื่องระหว่างปี 2374-2536 เป็นการย้ายเด็กชาวพื้นเมืองประมาณ 150,000 คน จากอ้อมอกของครอบครัวให้เข้าสู่ระบบนี้ ที่ศาสนจักรเป็นผู้ดูแลในนามรัฐบาลกลาง.

เครดิตภาพ : REUTERS, AP