เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา ห้องจูปิเตอร์ 14 อาคาร ชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี นายอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่สายการผลิต บริษัท กรังด์ปรีซ์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) จัดแถลงข่าว งาน “Enzo Meets the Press”  โดยมี “ต๊อด” ปิติ ภิรมย์ภักดี กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอด บริวเวอรี จำกัด ร่วมให้การต้อนรับและแสดงความยินดีกับ “เอ็นโซ่ ธารวณิชกุล” ยอดนักขับไทยวัย 13 ปี ผู้จารึกประวัติศาสตร์ “เด็กไทย” คว้าแชมป์โลกรถคาร์ทฤดูกาล 2022 รุ่นจูเนียร์ 

เอ็นโซ่ ยังสร้างความฮือฮาเป็นนักขับ “ไทยแท้” คนแรกที่ได้รับสัญญาเข้าร่วมทีมเวิลด์คลาสกับ “เรดบูล จูเนียร์” ซึ่งปั้นนักแข่งฟอร์มูล่าวันระดับแชมป์โลกมามากมาย อย่าง อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ ที่ปัจจุบันแข่งให้กับ วิลเลียมส์ เรซซิ่ง รวมถึงนักขับชื่อดังอย่าง เซบาสเตียน เวทเทล แชมป์โลก 4 สมัยชาวเยอรมัน, แดเนียล ริคคิอาร์โด ยอดนักขับออสเตรเลียน, ปิแอร์ แกสลีย์ นักขับชาวฝรั่งเศส และ คาร์ลอส ซายน์ซ นักขับสแปนิชจาก เฟอร์รารี โดยนักขับเหล่านี้ ล้วนสร้างชื่อเสียงกับ เรดบูล เรซซิ่ง และ อัลฟาทาวรี (ชื่อเก่า สคูดิเรีย โทโรรอสโซ) 

การพบและเปิดใจกับสื่อเมืองไทยครั้งนี้ เอ็นโซ่ เดินทางกลับสู่เมืองไทยพร้อมครอบครัว คือคุณพ่อ-คุณแม่ เพื่อเยี่ยมบ้านเกิด ซึ่ง เอ็นโซ่ เปิดเผยว่า ใช้เวลานานมากครับกับเส้นทางที่ผ่านมา ตนภูมิใจมากที่ชนะใน เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ภายใต้ธงชาติไทย และเป็นนักขับไทยแท้ เพราะว่าน้อยครั้งที่จะมีคนไทยแข่งในระดับโลก และในต่างประเทศ ดีใจมากที่ได้แสดงให้ชาวต่างชาติเห็นว่า คนไทยก็ขับรถเก่ง การไปเวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ กำลังทำให้ทุกคนทั่วโลกเห็นว่า ประเทศไทยมีศักยภาพแค่ไหน

ขณะเดียวกัน นักขับไทยวัย 13 ปี กล่าวถึงเป้าหมายหลังจากคว้าแชมป์โลกรถคาร์ทในปี 2022 ว่า เป้าหมายหลักๆ คือการชนะ และตนอยากชนะในฟอร์มูล่าวัน เพราะว่านั่นคือเวทีที่ใหญ่ที่สุดของโลก นักแข่งที่เก่งที่สุดของโลก ก็อยู่ทีฟอร์มูล่าวัน พอเริ่มชนะในเมืองไทย ก็มองไปถึงยุโรป ค่อยมองต่อไปในเวทีโลก จากนั้นก็มองไปถึง ฟอร์มูล่าโฟร์, ฟอร์มูล่าทรี, ฟอร์มูล่าทู และแน่นอนว่า ทุกคนอยากไต่ขึ้นไปให้ถึง ฟอร์มูล่าวัน แต่ก็ต้องค่อยๆ ขยับขึ้นไปตามลำดับของ มอเตอร์สปอร์ต

ดร.เฮลมุตต์ มาร์โก ที่ปรึกษาระดับสูงของ เรดบูล เรซซิ่ง ประทับใจในตัว เอ็นโซ่ อย่างมาก ภายใต้การเซ็นสัญญา เรดบูล จูเนียร์ จะก้าวเข้ามาสนับสนุนและดูแลในเรื่องของการฝึกซ้อม โปรแกรมพัฒนาการขับ การหาทีมแข่งที่เหมาะสม และการดูแลการแข่งขันของ เอ็นโซ่ ในฤดูกาลหน้าทั้งหมด เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่จะก้าวสู่การเป็นนักขับอาชีพในรุ่น ฟอร์มูล่าโฟร์ (F4) และรุ่นอื่นๆ ตามลำดับขั้นอย่าง ฟอร์มูล่าทรี (F3), ฟอร์มูล่าทู (F2) และความฝันสูงสุดอย่าง ฟอร์มูล่าวัน (F1) ในอนาคตต่อไป 

ส่วนเส้นทางที่นักขับวัย 13 ปี วางไว้สำหรับอนาคตของตนเอง ในทางเดินสายมอเตอร์สปอร์ตนั้น เอ็นโซ่ กล่าวว่า ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ อีก 4 ปีนับจากนี้ อยากจะแข่ง ฟอร์มูล่าทู ให้ได้ในอายุ 17 ปี เรดบูล ก็คุยกับตนหลายอย่าง คิดว่าถ้าตนเก่งพอ จะไปถึง ฟอร์มูล่าวัน ได้กับ เรดบูล ซึ่งเราจะได้เห็นกันตนฝันไว้ว่า วันหนึ่งเมื่อกลับมาถึงเมืองไทย จะมีแฟนๆ มาต้อนรับที่หน้าเกตในสนามบิน และในวันนั้น ตนมจะได้ขับใน ฟอร์มูล่าวัน 

อย่างไรก็ตาม เอ็นโซ่ เผยว่า เป้าหมาย 4 ปีนี้ ก็เหมือนอะคาเดมี่กีฬาอาชีพทั่วไป ใน 4 ปีนี้ ตนจะต้องสร้างผลงาน ทำความเร็ว ให้ได้น่าพอใจ เพื่อก้าวขึ้นการเซ็นสัญญาเป็นนักขับอาชีพระดับสูงขึ้น ถ้าทำผลงานไม่ได้ ก็ต้องถูกตัดออก ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่ตนมาเพื่อชัยชนะ ทุกครั้งที่ลงแข่ง คิดแต่เรื่องชนะ ไม่คิดแค่โพเดียม เพราะการเป็นรองแชมป์ไม่มีใครจำ เขาจำได้แค่แชมป์ ไม่ได้คิดอย่างอื่น จะทุ่มเทเต็มที่เพื่อทำเป้าหมายให้เป็นจริงให้ได้