เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” อดีต ส.ส. ได้โพสต์ข้อความระบุใจความว่า “ผบช.น. แถลงข่าวเรื่องคดีจินหลิง คนนั่งซ้ายขวาท่านไปเกี่ยวอะไรด้วยครับ? เพราะคนหนึ่ง เป็นรองฯ คุมม็อบ อีกคน เป็นรองฯ คุมจราจร ทำไมไม่เอารองฯ ที่เกี่ยวข้องกับคดีมาแถลงด้วยครับ? เพราะไม่มีใครเอากับท่านแล้วใช่ไหม? เที่ยวเคาะประตูห้องรองฯ ทุกคน ก็ไม่มีใครมา น่าสงสาร ลงไปอยู่ใต้ดีกว่า เพราะท่านถนัดเล่นหนังตะลุง”

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมถึงที่มาของโพสต์ดังกล่าวของนายชูวิทย์ เป็นเหตุมาจากกรณีวานนี้ (28 ธ.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้ตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีจินหลิง เพื่ออธิบายถึงไทม์ไลน์การทำงานของคณะสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่นครบาล ที่ถูกนายชูวิทย์โจมตีมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการปล่อยตัวผู้ต้องหา การคืนรถยนต์ของกลางให้ผู้ต้องหา และการทิ้งรถยนต์ของกลางกว่า 11 คัน ไว้ยังบริเวณจุดเกิดเหตุ (ผับจินหลิง) นาน 2 เดือน กว่าจะมีการเข้าตรวจค้นรอบที่ 2 เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ที่ผ่านมา

โดยการนำของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ นายอุดมชัย โลหณุต ผอ.ปปส.กทม. จนพบว่ามีหนึ่งในรถยนต์ของกลาง ที่ปรากฏเอกสารว่าเป็นรถยนต์ของนายหยาง เฉิน (หลานนายตู้ห่าว) และยังพบหลักฐานวัตถุที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และอุปกรณ์การพนันจำนวนมาก ที่ถูกทิ้งไว้ยังที่เกิดเหตุ อาทิ ถาดไม้สำหรับใช้ในการเสพยาเสพติด หลอดดูดที่ใช้แล้วสำหรับเสพยาเสพติด ไม้ปั่นจมูกที่ใช้ในการเสพยาเสพติด และชิพแทนเงินสดสำหรับการพนัน ซึ่ง พล.ต.ท.ธิติ ผบช.น. ยังได้ยืนยันว่า คณะทำงานมีการปฏิบัติหน้าที่อย่างครบถ้วน และเนื่องจากมีคำสั่งตรวจยึดอาคารจินหลิงและบริเวณโดยรอบ ของทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 จึงเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวน ไม่สามารถเข้าตรวจค้นของกลางในที่เกิดเหตุได้โดยพลการ.

ขอบคุณภาพและข้อมูล : @ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์