เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” อดีต ส.ส. ได้โพสต์ข้อความระบุใจความว่า “ผบช.น. แถลงข่าวเรื่องคดีจินหลิง คนนั่งซ้ายขวาท่านไปเกี่ยวอะไรด้วยครับ? เพราะคนหนึ่ง เป็นรองฯ คุมม็อบ อีกคน เป็นรองฯ คุมจราจร ทำไมไม่เอารองฯ ที่เกี่ยวข้องกับคดีมาแถลงด้วยครับ? เพราะไม่มีใครเอากับท่านแล้วใช่ไหม? เที่ยวเคาะประตูห้องรองฯ ทุกคน ก็ไม่มีใครมา น่าสงสาร ลงไปอยู่ใต้ดีกว่า เพราะท่านถนัดเล่นหนังตะลุง”
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/12/IMG_9698.jpg)
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมถึงที่มาของโพสต์ดังกล่าวของนายชูวิทย์ เป็นเหตุมาจากกรณีวานนี้ (28 ธ.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้ตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีจินหลิง เพื่ออธิบายถึงไทม์ไลน์การทำงานของคณะสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่นครบาล ที่ถูกนายชูวิทย์โจมตีมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการปล่อยตัวผู้ต้องหา การคืนรถยนต์ของกลางให้ผู้ต้องหา และการทิ้งรถยนต์ของกลางกว่า 11 คัน ไว้ยังบริเวณจุดเกิดเหตุ (ผับจินหลิง) นาน 2 เดือน กว่าจะมีการเข้าตรวจค้นรอบที่ 2 เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ที่ผ่านมา
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/12/IMG_9696.jpg)
โดยการนำของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ นายอุดมชัย โลหณุต ผอ.ปปส.กทม. จนพบว่ามีหนึ่งในรถยนต์ของกลาง ที่ปรากฏเอกสารว่าเป็นรถยนต์ของนายหยาง เฉิน (หลานนายตู้ห่าว) และยังพบหลักฐานวัตถุที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และอุปกรณ์การพนันจำนวนมาก ที่ถูกทิ้งไว้ยังที่เกิดเหตุ อาทิ ถาดไม้สำหรับใช้ในการเสพยาเสพติด หลอดดูดที่ใช้แล้วสำหรับเสพยาเสพติด ไม้ปั่นจมูกที่ใช้ในการเสพยาเสพติด และชิพแทนเงินสดสำหรับการพนัน ซึ่ง พล.ต.ท.ธิติ ผบช.น. ยังได้ยืนยันว่า คณะทำงานมีการปฏิบัติหน้าที่อย่างครบถ้วน และเนื่องจากมีคำสั่งตรวจยึดอาคารจินหลิงและบริเวณโดยรอบ ของทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 จึงเป็นเหตุให้พนักงานสอบสวน ไม่สามารถเข้าตรวจค้นของกลางในที่เกิดเหตุได้โดยพลการ.
ขอบคุณภาพและข้อมูล : @ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์