จากกรณี นายฟุรกอน ดือราแม็ง อายุ 21 ปี นักศึกษา ปวส.2 ได้พลัดตกท่อระบายน้ำ ตรงบริเวณข้างปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนหนองจิก ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี หลังเดินมาดูสถานการณ์น้ำท่วมกับเพื่อนอีก 3 คน เหตุเกิดช่วงเวลา 03.00 น. ของวันที่ 23 ธ.ค. โดยเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันคนหาร่างแต่ไม่พบนั้น

20 ชม. ดำน้ำค้นหาหนุ่ม ปวส.ดูน้ำท่วมพลาดตกท่อยังไร้แวว เร่งค้นหาต่อรอปาฏิหาริย์

ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้วางแผน พร้อมกับเจ้าหน้าที่ จัดกำลังออกค้นหาพื้นที่แม่น้ำ โดยมีทั้งทางบก ทางน้ำ ขณะเดียวกันสั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เหลือประจำไปยังตามฝาท่อระบายน้ำต่างๆ กระทั่งรองผู้ว่าฯ สั่งให้นำแผงกั้นทางน้ำ ที่รถแบคโฮขวางกั้นอยู่ออก เพื่อให้น้ำได้กลับมาระบายอีกครั้ง ผ่านไปไม่นาน ปรากฏว่า ช่วงเวลา 15.40 น. ได้มีชาวบ้านไปพบร่างนายฟุรกอน ใส่เสื้อสีแดง นุ่งกางเกงทหาร ซึ่งติดอยู่ในท่อ ซอยบริษัทปัตตานีคอนกรีด ห่างจากจุดที่พลัดตกประมาน 400 เมตร ซึ่งเป็นจุดเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ได้ไปค้นหาแล้ว โดยเจ้าหน้าที่จึงทำการปิดเส้นทางทันที เพื่อไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป ก่อนนำร่างนายฟุรกอน ที่ติดอยู่ในท่อออกมา พร้อมนำตัวส่ง รพ.ปัตตานี เพื่อให้ทางญาติได้นำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนา ซึ่งจะทำการฝั่งร่างคืนนี้

ด้านชาวบ้านที่พบศพ กล่าวว่า ก่อนพบร่างน้องได้ไปตรวจดูตามท่อต่างๆ หลังทราบว่าได้มีการปล่อยน้ำ กระทั่งเห็นมีบางอย่างอยู่ในท่อน้ำ จึงดูให้ชัดเจนอีกครั้ง ถึงกับตกใจมาก เพราะเป็นร่างน้องติดอยู่ในท่อ จึงได้ตะโกนเรียกเจ้าหน้าที่ทันที

ว่าที่ร้อยตรีตระกูล เปิดเผยว่า เกือบ 30 ชั่วโมง ที่เจ้าหน้าที่ออกค้นหาน้องที่พลัดตกท่อ โดยได้ดำเนินการวางแผนปิดกั้นเส้นทาง และออกค้นหาตามท่อระบายน้ำ และจุดที่น้องพลัดตก แต่ก็ไม่พบ จึงยุติค้นหาเที่ยงคืน และเช้านี้มาปรับแผนใหม่ ลงค้นหาตามท่อซึ่งอยู่ตรงข้าม และบึงข้างทางแต่ก็ยังไม่พบน้อง ก่อนวางแผนอีกครั้ง โดยให้ลงสำรวจบริเวณสุดน้ำไหลของน้ำ ซึ่งเป็นแม่น้ำย่อย นั่งเรือ และดำน้ำค้นหา แต่ก็ไม่เจอ กระทั่งแผนสุดท้ายคือ ได้สั่งการให้เปิดเส้นทางน้ำที่ปิดกั้นไว้ก่อนหน้านี้ ไม่นานชาวบ้านก็พบศพน้องติดอยู่ในท่อ

“ฝากเตือนไปยังประชาชนที่มีลูก หากมีน้ำท่วมก็ระมัดระวัง ให้ลูกๆ อยู่ในสายตา อีกทั้งประชาชนให้ระมัดระวังในการเดินลุยน้ำท่วม ซึ่งหลังจากนนี้ จุดที่มีท่อขนาดใหญ่ในเมืองปัตตานี ก็ได้สั่งการไปยังผู้นำท่องถิ่นให้มีการปิดกั้นจุดที่เสี่ยง” รองผู้ว่าฯ ปัตตานี กล่าว