เมื่อวันที่ 20 ส.ค.นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบและเฝ้าระวังคุณภาพน้ำผิวดินและน้ำบาดาล รัศมี 5 กิโลเมตรรอบโรงงานผลิตเม็ดโฟมและพลาสติก บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด จ.สมุทรปราการ ที่เกิดเหตุระเบิด ว่า ยังคงพบสารสไตรีนในน้ำผิวดินปริมาณสูง แต่ไม่พบปริมาณสารอินทรีย์ระเหยง่ายในตัวอย่างน้ำบาดาลที่เก็บตัวอย่างจากบ่อเอกชนและบ่อสังเกตการณ์น้ำบาดาล ยืนยันได้ว่าแหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่โดยรอบโรงงานหมิงตี้ มีคุณภาพน้ำดี ปลอดภัยสำหรับใช้อุปโภคบริโภคอย่างแน่นอน โดยผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำบาดาลและน้ำผิวดินรอบที่ 1 เก็บตัวอย่างระหว่างวันที่ 7-11 ก.ค.พบว่าคุณภาพน้ำผิวดินบริเวณในโรงงานมีสารอินทรีย์ระเหยง่ายประเภทเบนซีน เอทธิลเบนซีน สไตรีนโทลูอีน และไซลีนทั้งหมด โดยเฉพาะสไตรีนมีค่า 176 – 19,210 ไมโครกรัมต่อลิตร ซึ่งมีปริมาณค่อนข้างสูงมาก ส่วนน้ำบาดาลตรวจพบสารอินทรีย์ระเหยง่ายประเภทโทลูอีน11.0-24.1 ไมโครกรัม/ลิตรและไซลีนทั้งหมด 5.2-12.4 ไมโครกรัม/ลิตร ซึ่งมีปริมาณน้อยมาก เมื่อเทียบกับค่ามาตรฐานน้ำใต้ดินที่กำหนดไว้ว่าต้องไม่เกิน 100 ไมโครกรัมต่อลิตร “น้ำบาดาล” จึงอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย และมีการติดตามตรวจสอบและเฝ้าระวังเรื่อยมาอย่างต่อเนื่อง
อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวต่อว่า สำหรับผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำบาดาลและน้ำผิวดินรอบที่ 2 เก็บตัวอย่างระหว่างวันที่ 3-7 ส.ค.ที่ผ่านมา ยังคงตรวจพบ ปริมาณสารอินทรีย์ระเหยง่ายประเภทเบนซีน เอทธิลเบนซีน สไตรีน โทลูอีน และไซลีนทั้งหมด มีปริมาณค่อนข้างสูง โดยเฉพาะสไตรีนมีค่า 72 – 12,112 ไมโครกรัมต่อลิตรในตัวอย่างน้ำผิวดินที่เก็บจากบริเวณในโรงงาน แต่ไม่พบปริมาณสารอินทรีย์ระเหยง่ายในตัวอย่างน้ำบาดาลที่เก็บตัวอย่างจากบ่อเอกชนและบ่อสังเกตการณ์น้ำบาดาล ดังนั้น จากผลวิเคราะห์น้ำบาดาลในครั้งที่ 2 นี้ สามารถยืนยันได้ว่าแหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่โดยรอบโรงงานหมิงตี้ มีคุณภาพน้ำดี ปลอดภัยสำหรับประชาชนสำหรับใช้อุปโภคบริโภคอย่างแน่นอน