เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.1729/2562 ที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นโจทก์ฟ้อง นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เป็นจำเลยในความผิดฐาน หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาฯ

กรณีเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2562 นพ.ระวี ได้กระทำผิดกฎหมายด้วยการแถลงข่าว การเข้าร่วมสังกัดกลุ่ม 11 พรรคการเมือง โดยแสดงเจตนาเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดย นพ.ระวี กล่าวตอนหนึ่งทำนองว่า การต่อสู้ทางการเมืองครั้งนี้ อาจมองได้ว่า เป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายที่เอาสถาบัน กับฝ่ายไม่เอาสถาบัน ซึ่งสมาชิกพรรคมีมติให้เราเลือกข้างที่รักษาสถาบันเท่านั้น พรรคพลังธรรมใหม่ จึงต้องประกาศจุดยืนตามเสียงข้างมากของสมาชิกพรรคทั่วประเทศ และถ้อยคำอื่นๆ

การกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ สมาชิกพรรค และพรรคการเมืองอื่นรวม 7 พรรค ซึ่งเรียกตัวเองว่า “ฝ่ายประชาธิปไตย” ที่เป็นแนวร่วมต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ว่าเป็นฝ่ายไม่เคารพเทิดทูนสถาบัน ซึ่งล้วนเป็นความเท็จทั้งสิ้น โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 ด้วย

นพ.ระวี จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัว

ในวันนี้ นพ.ระวี หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ จำเลยพร้อมทนายความ เดินทางมาฟังคำพิพากษา

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า จำเลยกล่าวข้อความดังกล่าวเพื่อชี้แจงให้ทราบถึงเหตุผลการตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ว่าเพราะมีความเชื่อมั่นในตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และแสดงจุดยืนว่าสมาชิกพรรคพลังธรรมใหม่จะปกป้องและรักษาสถาบันกษัตริย์ โดยเป็นกล่าวข้อความในลักษณะกว้างๆ ไม่ได้ระบุชื่อ พล.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส แต่อย่างใด ข้อเท็จจริงจึงยังฟังไม่ได้ชัดเจนว่ามีเจตนาใส่ความโจทก์ พิพากษายกฟ้อง

ภายหลัง นพ.ระวี ให้สัมภาษณ์ว่า ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า เราไม่ได้กล่าวหา พล.อ.เสรีพิศุทธ์ แต่พูดถึงสถานการณ์บ้านเมืองว่ามีการต่อสู้ระหว่างฝ่ายเอากับไม่เอาสถาบันฯ และพรรคพลังธรรมใหม่ยึดหลักการว่า เราต้องปกป้องสถาบันฯ จึงเข้าร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งต้องดูว่าจะมีการยื่นอุทธรณ์คดีหรือไม่

นอกจากนี้ นพ.ระวี ยังชี้แจงถึงกรณีสมาชิกพรรคพลังธรรมใหม่ ร้องเรียนหน่วยงานรัฐ มีการยักยอกเงินบริจาคของพรรคว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด จริงๆ แล้ว สมาชิกพรรคมีการร้องเรียนในหลายๆ ประเด็น ที่นายทะเบียนพรรคและเหรัญญิก รับผิดชอบดูแลอยู่ ขณะที่ตนเองสามารถชี้แจงได้ ทั้งนี้ สาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งมาจากบุคลากรภายในพรรคพลังธรรมใหม่ และยืนยันจะไม่ถึงขั้นยุบพรรคพลังธรรมใหม่