กรณีเรือหลวงสุโขทัย อับปางเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ล่าสุด ได้ทำการลำเลียงลูกเรือขึ้นฝั่งที่ท่าเรือประจวบ 74 นาย ในเวลา 05.30 น. และได้มีการคัดกรองผู้บาดเจ็บแยกส่งโรงพยาบาลบางสะพาน และแยกผู้ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเข้าพักที่ศูนย์พักพิงร่วมใจอุ่นไอรัก ที่ทางอำเภอบางสะพาน มีการจัดเตรียมไว้ โดยในจำนวน  74 นาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บขาหัก ข้อมือ นิ้วมือฉีกขาด บาดแผลเลือดออก จำนวน 7 นาย โดยมากับเรือหลวงกระบุรี จำนวน 48 นาย มากับเรือศรีไชยา จำนวน 22 นาย และมากับเรือ TUG ประจวบ จำนวน 5 นาย และยังคงสูญหายอีกจำนวน 32 นาย กระทั่งมีการจัดพิธีให้การต้อนรับ กำลังพลผู้รอดชีวิตทั้ง 54 นาย ที่บาดเจ็บเล็กน้อย กลับเข้าสู่อ้อมอกครอบครัว ตามที่ได้นำเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

‘สู่อ้อมอก’ กองเรือยุทธการ ต้อนรับ 54 ลูกเรือหลวงสุโขทัย ก่อนส่งกลับบ้าน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกที่ผ่านมา ณ กองบัญชาการ กองเรือฟริเกตที่ 1 พลเรือเอกอะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้กล่าวโอวาทภายในพิธีให้การต้อนรับว่า มีความห่วงใย และรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อุบัติเหตุครั้งนี้คงไม่มีใครอยากให้เกิด รวมถึงคลิปที่ทางกำลังพลถ่ายไว้ได้ก่อนอับปาง และจากการสอบถามลูกเรือ ได้ให้ข้อมูลขณะเกิดเหตุทะเลมีคลื่นยักษ์สูง ซึ่งสอดคล้องกับพลประจำเรือนายหนึ่งที่ให้การว่า ตั้งแต่ประจำการอยู่ในเรือมานานนับสิบปี ยังไม่เคยประสบพบเจอคลื่นยักษ์ที่มีความรุนแรงเช่นนี้

ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นได้มอบเงินบำรุงขวัญ ก่อนปล่อยให้ผู้ประสบเหตุพบหน้าครอบครัวที่มารอรับกลับบ้าน ส่วนกำลังพล 30 นาย ที่ยังหาไม่พบนั้น กองทัพเรือ ได้นำเรือรบ เรือตรวจการณ์ และอากาศยาน ออกลาดตระเวนค้นหาผู้รอดชีวิต เชื่อว่ายังลอยคออยู่ในทะเล โดยภารกิจจะคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะสามารถช่วยเหลือทหารทุกนาย.