เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ โพสต์ภาพลงเฟซบุ๊ก “Arak Wongworachat” พร้อมข้อความระบุว่า “สาระสุขภาพยามเช้าวันหยุดสุดสัปดาห์ #ก้อนเนื้องอกรังไข่ขนาดใหญ่ในช่องท้อง พบชิ้นส่วน เส้นผม หนังศีรษะ เล็บ ฟัน กระดูก ไขมัน ในก้อนเนื้อ เป็นกรณีตัวอย่างผู้ป่วยหญิง อายุประมาณ 35 ปี ยังไม่หมดประจำเดือน ให้ประวัติว่า ปวดถ่วงท้องน้อยมานานกว่า 1 ปี ประจำเดือนมาบ้าง หยุดเว้นไปบ้าง หลายเดือน ตอนมีประจำเดือน ปวดท้องมากขึ้น ไม่คิดว่าผิดปกติอะไร ต่อมาระยะหลังรู้สึกได้ว่ามีอาการ ปัสสาวะบ่อยขึ้น ท้องผูก ปวดถ่วงท้องน้อยตลอดเวลา เวลานั่งจะดีขึ้น ซื้อยากินเองพอบรรเทา

อยู่มาวันหนึ่ง ขณะทำกิจกรรมงานบ้าน ปวดท้องทันทีทันใด จึงตัดสินใจไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ แพทย์เวรตรวจร่างกายเบื้องต้น สงสัยเนื้องอกในอุ้งเชิงกราน ส่งอัลตราซาวด์ช่องท้อง รังสีแพทย์อ่านผลว่าเป็นก้อนเนื้อในช่องท้องส่วนล่าง มีส่วนที่เป็นของเหลวผสมปนกัน จึงส่งปรึกษา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินรีเวช รับผู้ป่วยนอนในโรงพยาบาล วางแผนการรักษาด้วยการผ่าตัดทันที

หลังผ่าตัด พบก้อนเนื้อรังไข่ขนาดใหญ่ประมาณ 18 เซนติเมตร 1 ข้าง เริ่มมีขั้วบิดพันกัน 1 รอบ แต่ก้อนเนื้อยังไม่มีภาวะขาดเลือดมาเลี้ยง จึงได้ตัดก้อนเนื้อออก นอกจากนั้นรังไข่อีกข้าง พบเป็นเนื้องอกไม่ใหญ่มาก จึงได้ตัดออกไปด้วย เหลือเนื้อเยื่อรังไข่ไว้บางส่วนเพื่อให้ยังคงผลิตฮอร์โมนได้ เมื่อผ่าก้อนชิ้นเนื้อ พบเส้นผมเป็นกระจุกปนกับ ชิ้นส่วนเล็บ หนังศีรษะ กระดูก ไขมัน อยู่เต็มก้อน ก้อนเนื้อในอุ้งเชิงกรานขนาดใหญ่ เป็นเหตุให้ไปกดทับลำไส้ใหญ่ ทำให้ท้องผูก กดทับกะเพาะปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะบ่อย

หากมีอาการผิดปกติเช่นนี้ไม่ควรละเลย รีบปรึกษาแพทย์ ปล่อยทิ้งไว้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ถุงน้ำบิดขั้วจนขาดเลือดไปเลี้ยง ส่งผลให้รังไข่เน่า ถุงน้ำแตก รั่ว ติดเชื้อรุนแรงตามมา อันตรายมากขึ้น และมีโอกาสพัฒนาเป็นมะเร็งมีน้อยเพียง 1% เท่านั้น ก้อนเนื้อชนิดนี้เรียกชื่อทางการแพทย์ว่า เดอร์มอยด์ซีสต์ เป็นความผิดปกติที่เซลล์ต้นกำเนิดเจริญเติบโตอยู่ผิดที่ แทนที่จะพัฒนาเป็นเซลล์ผิวหนัง กลับมาเจริญในรังไข่ ตั้งแต่เกิด เจริญเติบโตเรื่อยมา จนมีขนาดใหญ่แสดงอาการดังกล่าวมาข้างต้น ไม่ใช่ไสยศาสตร์แต่อย่างใด

ข้อแนะนำการตรวจอัลตราซาวด์ในช่องท้อง ไม่ใช้รังสี ตรวจง่าย รู้ผลเร็ว ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องงดอาหาร แพทย์ทั่วไปก็สามารถตรวจคัดกรอง วินิจฉัยโรคได้ หากมีความผิดปกติของร่างกายต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์ #ทีมโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์”

หลังมีการโพสต์ออกไป มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และแชร์กันออกไปจำนวนมาก โดย นพ.อารักษ์ ยังได้เข้ามาตอบคอมเมนต์ให้ความรู้เกี่ยวกับ “เดอร์มอยด์ซีสต์” อีกว่า “เดอร์มอยด์ซีสต์ (Dermoid cyst) คืออะไร
เดอร์มอยด์ซีสต์ เป็นโรคถุงน้ำรังไข่ หรือซีสต์รังไข่ชนิดหนึ่ง ที่มีความผิดปกติของเซลล์ที่สามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ เกิดเจริญเติบโตอยู่ผิดที่ แทนที่จะพัฒนาเป็นเซลล์ที่ผิวหนัง กลับมาเจริญอยู่ในรังไข่ โดยความผิดปกตินี้จะเป็นกันตั้งแต่เกิด ทำให้เดอร์มอยด์ซีสในรังไข่ มีเส้นผม หนังศีรษะ ฟัน หรือเล็บ อยู่ในนั้นได้ ทั้งนี้ เดอร์มอยด์ซีสต์สามารถพบได้หลายขนาด ตั้งแต่ 1-30 เซนติเมตร ลักษณะเดอร์มอยด์ซีสต์มักจะเป็นก้อนทรงรีคล้ายไข่ไก่ ผิวเรียบ ภายในมีของเหลวและมีอวัยวะดังที่กล่าวข้างต้น”

และข้อความว่า “เดอร์มอยด์ซีสต์ มีอาการเป็นอย่างไร???
เดอร์มอยด์ซีสต์มักไม่ค่อยแสดงอาการชี้ชัด แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมาพบแพทย์ด้วยอาการ ดังต่อไปนี้

  • ปวดท้องน้อยข้างใดข้างหนึ่งหรือทั่วท้อง ท้องผูก ปัสสาวะบ่อยๆ
  • หน้าท้องหนาผิดปกติ
  • คลำพบก้อนในช่องท้อง
  • บางรายอาจมีอาการปวดประจำเดือนหรือประจำเดือนมามากบ่อย ๆ มาผิดปกติ
    อย่างไรก็ตาม เดอร์มอยด์ซีสต์มักไม่มีอาการบ่งชี้ที่ชัดเจน ดังนั้นสาว ๆ ควรไปตรวจภายในและอัลตราซาวด์เพื่อตรวจดูมดลูกและรังไข่เป็นประจำทุกปี”

ขอบคุณข้อมูล – ภาพ เฟซบุ๊ก “Arak Wongworachat”