เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย ได้โพสต์ข้อความระบุว่า นับถอยหลังสถานการณ์เลือกตั้ง

แผน “วิ่งผลัดนายกฯ คนละ 2 ปี เหลว”

~ ก็บอกไว้ก่อนแล้วไงว่าทางเลือกมีไม่มากนัก ว่า” จะยุบสภาหรือครบวาระ  เพราะถ้ามี ส.ส.ลาออก 200 คน ก็ต้องยุบสภาสถานเดียว”

วันนี้มีการยืนยันข่าวแล้วว่าสัปดาห์หน้าจะมี ส.ส.ลาออก 40 คน ไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย

ดูการโคจรถอยหลังของดาวมฤตยูเมื่อเช้านี้แล้ว คาดว่า ยังไม่หมดเท่านี้!!!!

เมื่อ ส.ส.ลาออกและเวลาก่อนถึงกำหนดการเลือกตั้งตามวาระยังมีอีกพอสมควร จึงต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ แต่ถ้าเลือกตั้งใหม่ก็ไม่คุ้มค่าเพราะ ส.ส.ใหม่จะอยู่ได้แค่เดือนกว่า ก็หมดวาระสภาแล้ว เป็นการล้างผลาญงบประมาณ จึงเป็นแรงกดดันให้ต้องยุบสภา

~ ข้อเสนอให้บางพรรคสนับสนุนพลเอกประยุทธ์เป็นนายกก่อน 2 ปี จากนั้นให้หัวหน้าพรรคที่สนับสนุนนั้นเป็น นายกรัฐมนตรี ไม่ได้รับความเชื่อถือ และกลายเป็นเรื่องขำขันของนักการเมืองในขณะนี้

เพราะข้อเสนอนี้ถือเอาการคุมเสียง ส.ว.250 คนเป็นฐานกำลัง!!!!

ขณะนี้ ส.ว. แบ่งออกเป็นกี่กลุ่มกี่พวก และสายไหนมีกี่คนรู้กันหรือยัง???

ตามรัฐธรรมนูญนั้น ส.ว.จะเลือกนายกได้อีกเพียงปีเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นการเลือกนายกในสภาต้องอาศัยเสียง ส.ส. อย่างเดียว !!!

นักการเมืองเขารู้ทันเกมกลนี้ว่าเป็นข้อเสนอที่เหลวไหล เพราะเมื่อครบ 2 ปีแล้ว ส.ว. ไม่มีสิทธิเลือกนายกฯ อีก จึงเกิดเงื่อนไขว่า “พรรคใดได้ ส.ส.มากกว่า พรรคนั้นก็เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคที่มี ส.ส.น้อย อย่างมากก็เอาตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี” ไป!!!!

แล้วพรรคที่พลเอกประยุทธ์จะสังกัดนั้นจะได้ ส.ส.มากกว่าพรรคการเมืองอื่นหรือ?

ขนาดพรรคจิ๋วทุกพรรคสิบกว่าคนที่เคยใช้บริการกันมาก็ไม่เชื่อถือ ไม่เข้ามาร่วมด้วย แต่กำลังจะตั้งเป็น “กลุ่มอัมโน่” แต่ “พิษ 100 หาร” จะได้กลับสภากี่คนก็ไม่รู้

เพราะเหตุนี้พรรคการเมืองต่างๆ จึงไม่ยอมรับเงื่อนไข “ผลัดกันเป็นนายกฯ คนละ 2 ปี” ที่ลุงตู่เป็นนายกฯ ก่อน!!!!

และในทางการเมืองนั้นถ้าพรรคไหนทำแบบนี้ก็คงไม่มีหน้าไปพบประชาชนที่ไปสัญญากับเขาไว้

และเมื่อพรรคการเมืองต่างๆ ไม่รับข้อเสนอ “นายกฯ วิ่งผลัดคนละ 2 ปี”

 หนทางกลับคืนสู่ทำเนียบของพลเอกประยุทธ์ก็ยิ่งตีบตันลงไปอีก!!!!

#สร้างปัญหาต่อก่อปัญหาใหม่