จากกรณี องค์ศิวลึงค์อายุกว่า 1,300 ปี ที่ถูกขุดพบและโจรกรรมไปจากแหล่งโบราณสถานโมคลาน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เมื่อ พ.ศ. 25224 แต่ปรากฏว่า คนร้ายมีอันเป็นไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้หลายคนเชื่อว่าเป็นอาถรรพณ์ จนนำไปถวายไว้ยังวัดนารายณ์นิการาม อ.กะปง จ.พังงา ซึ่งภายหลังมีการอัญเชิญมาประดิษฐานชั่วคราวหน้าพระตำหนักเลียบเมืองภายในจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนจะทำพิธีอัญเชิญไปไว้ยัง “หอพระอิศวร” ริมถนนราชดำเนิน กลางเมืองนครศรีธรรมราช อย่างเป็นการถาวร ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานการประกอบพิธีบวงสรวงสักการะองค์ศิวลึงค์ว่า พิธีเริ่มขึ้นในเวลา 09.09 น. เริ่มจากพิธีถวายสักการะมหาเทพ ณ หอพระอิศวรและหอพระนารายณ์ พิธีบวงสรวงบรรพชนพราหมณ์เมืองนครศรีธรรมราช พิธีอภิเษกน้ำเทพมนต์ ณ ปะรำพิธีฝั่งหอพระอิศวร, พิธีสักการะบวงสรวงเพื่ออัญเชิญศิวลึงค์ไปประดิษฐานโบราณสถานโบสถ์พราหมณ์นครศรีธรรมราช ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นจะมีการแสดงวิทยาลัยนาฏศิลป์ ชุดการแสดงเทศบาลตำบลเชียรใหญ่ มโนราห์เครื่องสด เคลื่อนย้ายองค์ศิวลึงค์ขึ้นประจำรถอัญเชิญ

จากนั้นในเวลา 16.09 น. ของวันเดียวกัน จะเคลื่อนขบวนอัญเชิญองค์ศิวลึงค์สู่โบราณสถานโบสถ์พราหมณ์นครศรีธรรมราช อัญเชิญองค์ศิวลึงค์ประดิษฐาน ณ ตำแหน่งที่กำหนดในเวลา 17.09 น. จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ประธานพิธีจุดธูปเทียนด้านหน้าโต๊ะบูชาเทวรูปคณะพราหมณ์ ประกอบพิธีถวายสักการะองค์ศิวลึงค์ และจะมีการประกอบพิธีบวงสรวง สมโภช พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ากราบสักการะในระหว่างการประกอบพิธีจนเสร็จสิ้นพิธีถึงวันที่ 4 ธ.ค. 2565

ด้าน นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผวจ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ศิวลึงค์องค์นี้มีความสำคัญสำหรับประวัติศาสตร์เมืองนครศรีธรรมราชและเมืองไทยเป็นอย่างมาก แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณสถานระดับโลกชาวต่างประเทศก็ให้ความสนใจอย่างกว้างขวาง มีการประสานงานติดต่อมาที่ตน และระบุว่าศิวลึงค์องค์นี้ หากจำหน่ายไปยังต่างประเทศจะมีมูลค่าสูงกว่า 1,800 ล้านบาท.