เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน สายงานกำกับกฎเกณฑ์และกฎหมาย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และพันเอกสรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ร่วมแถลงข่าวระบบบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถ หรือระบบตัดแต้ม

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ระบบตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถ กำหนดไว้ในระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับระบบการบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ. 2565 จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 ม.ค. 66 ซึ่งจะเป็นมาตรการเสริม ในการสร้างวินัยการขับขี่เพิ่มเติมจากการออกใบสั่ง

“กำหนดให้ผู้ที่มีใบอนุญาตขับขี่แต่ละรายจะมีคะแนนความประพฤติคนละ 12 คะแนน ไม่ว่าผู้นั้นจะได้รับใบอนุญาตขับขี่กี่ชนิดก็ตาม หากทำผิดตามกฎจราจรในข้อหาที่ระบุไว้ จะถูกตัดคะแนนตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่กำหนด 1.ตัดคะแนนเมื่อทำความผิดที่เป็นปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุ ตาม 20 ฐานความผิด จะถูกตัดคะแนนเมื่อทำผิดทันที โดยแบ่งเป็น 4 ระดับ เช่น ตัด 1 คะแนน เมื่อทำผิดฐานขับรถเร็วเกินกำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ตัด 2 คะแนน เมื่อฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ตัด 3 คะแนน เมื่อขับรถชนแล้วหนี และตัด 4 คะแนน เช่น เมาแล้วขับ ขับรถในขณะเสพยาเสพติด แข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่ 2.ความผิดที่กฎหมายกำหนดให้ออกใบสั่ง 42 ฐานความผิด จะถูกตัดคะแนนเฉพาะกรณีไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่งในเวลาที่กำหนดเท่านั้น เช่น ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรในทางจอดในที่ห้ามจอด ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่ขณะขับรถ” ผบ.ตร. กล่าว

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า วิธีการตัดคะแนนจะดำเนินการโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ใช้ระบบฐานข้อมูลใบสั่ง PTM ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการบันทึกการทำผิดกฎจราจรและตัดคะแนนในแต่ละครั้ง หากผู้ขับขี่ถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 คะแนน จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ หรือห้ามขับรถทุกประเภท เป็นเวลา 90 วัน โดยตำรวจจะมีหนังสือแจ้งคำสั่งดังกล่าว และหากฝ่าฝืนไปขับรถในขณะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายใน 3 ปี อาจจะถูกสั่งพักใช้มากกว่า 90 วัน และหากยังถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่อีกเป็นครั้งที่ 4 อาจถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

ผบ.ตร. กล่าวว่า คะแนนที่ถูกตัดไปในแต่ะครั้ง จะได้รับคืนเมื่อครบกำหนด 1 ปี นับแต่วันกระทำผิดครั้งนั้นๆ เว้นแต่เป็นกรณีที่ถูกตัดเหลือ 0 คะแนน จะได้รับคืนเมื่อพ้นกำหนดเวลาการสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ โดยได้รับคืนเพียง 8 คะแนน หรือคืนคะแนนโดยวิธีการเข้ารับการอบรมกับกรมการขนส่งทางบก ซึ่งมี 2 กรณี กรณีที่คะแนนเหลือน้อยกว่า 6 คะแนน สามารถขอเข้ารับการอบรมจากกรมการขนส่งทางบกได้ แต่อบรมได้เพียงปีละ 2 ครั้ง กรณีที่ถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 คะแนน และต้องการคะแนนกลับคืนมาทั้งหมด 12 คะแนน สามารถขอเข้ารับการอบรมจากกรมการขนส่งทางบกได้ เมื่อผ่านการอบรมตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของกรมการขนส่งทางบก ก็จะได้รับคืนคะแนนตามที่กำหนด

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ประชาชนสามารถตรวจสอบคะแนนใบสั่ง ที่เว็บไซต์ E-Ticket PTM หรือแอพพลิเคชั่น ขับดี (KHUB DEE) ขณะที่เข้าชำระค่าปรับจราจรได้ที่แอพพลิเคชั่นเป๋าตัง

“การตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถ เรายึดหลักความโปร่งใส และความเท่าเทียมกัน โดยให้โอกาสปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรม และป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ ตามมาตรฐานสากล เพื่อลดอุบัติเหตุ และสร้างความปลอดภัยให้ทุกคน” ผบ.ตร. กล่าว