เมื่อเวลา 17.05 น. วันที่ 30 พ.ย. ที่ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. อาคารบี ชั้น 8 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (กองธุรกิจการเงินนอกระบบ) ภายหลังจากเวลา 12.35 น. ที่ผ่านมา กระทิง-ขุนณรงค์ ประเทศรัตน์ นักแสดงหนุ่ม ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้การในฐานะพยานในคดีแชร์ Forex-3D ปรากฏว่า หลังผ่านไปกว่า 5 ชม. นักแสดงหนุ่มได้ออกมาเข้าห้องน้ำ และได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนที่มาปักหลักทำข่าว

กระทิง ขุนณรงค์ เปิดเผยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอเรียกมาสอบปากคำในฐานะพยาน และตนก็ให้ข้อมูลปกติ ส่วนเรื่องเอกสารก็ได้เตรียมมาอย่างเดียวคือ รายการเดินบัญชี (สเตตเมนต์) ส่วนการพูดคุยภายในห้องสอบสวนเป็นการพูดคุยปกติ ส่วนเรื่องรายละเอียดขอยังไม่เปิดเผย เพราะไม่รู้ว่าตนสามารถพูดได้มากน้อยแค่ไหน พร้อมยืนยันว่าไม่เครียด

กระทิง ขุนณรงค์ กล่าวอีกว่า ที่เคยแจ้งเลื่อนมาเป็นวันนี้นั้นเพราะติดคิวถ่ายละคร และมาวันนี้ก็เพื่อตั้งใจอยากคุยให้จบ จะได้กลับมาทำงานปกติ แต่เพื่อนๆรอบๆข้างก็ได้ให้กำลังใจตลอด ทั้งนี้ ตนรู้สึกสบายใจที่ได้มาชี้แจงในวันนี้และยืนยันในความบริสุทธิ์ใจ ไม่รู้และไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่บุคคลใดกระทำ เพราะตนก็ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้เสียหายเช่นเดียวกัน พร้อมย้ำชัดว่าไม่ได้ชักชวนทั้ง บอล-กัมมัญญ์ กลมแก้ว และ โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร ในการให้ร่วมลงทุน

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การสอบปากคำในฐานะพยานยังไม่แล้วเสร็จ กระทิง ขุนณรงค์ ยังกลับเข้าไปในห้องสอบสวนต่อเนื่อง และยังพบว่ากระทิงมีสีหน้าที่ค่อนข้างเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่สดใส หรือตอบอย่างฉะฉานเหมือนครั้งที่เดินทางมาถึงในตอนแรกแต่อย่างใด

ด้าน ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ เปิดเผยว่า สำหรับกรณีของนักแสดงหนุ่มนั้น พนักงานสอบสวนได้มีการสอบปากคำในฐานะพยาน ซึ่งจะยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาในวันนี้ เพราะต้องรอการรวบรวมพยานหลักฐานจากการสอบปากคำพยานแต่ละปากและหลักฐานเส้นทางการเงินต่างๆ เพื่อยืนยันถึงการกระทำความผิดของเจ้าตัว

ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่พนักงานสอบสวนใช้สอบปากคำนั้นมีหลายประเด็น อาทิ ที่มาการเข้าร่วมลงทุน, มูลค่าการลงทุน, การชักชวนหรือบอกต่อให้ผู้อื่นเข้าร่วมลงทุน, และข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางการเงินต่างๆ และข้อมูลอื่นๆที่ดีเอสไอสามารถสืบสวนสอบสวนมาได้

ทั้งนี้ ภายหลังเปิดให้ผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายจากกรณีของนักแสดงหนุ่ม ก็มีผู้เข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษเพียง 1 รายเท่านั้น (ทนายปิยณัฐ สุกยัง) ซึ่งจากการสอบปากคำบุคคลดังกล่าวพบว่า ไม่ได้เป็นผู้เสียหายโดยตรง แต่มาร้องทุกข์ในฐานะตัวแทนประชาชนและมองว่าเป็นคดีอาญาแผ่นดิน จึงต้องการให้ดีเอสไอดำเนินการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม บุคคลที่มาร้องทุกข์กล่าวโทษนั้น ไม่ได้มีพยานหลักฐานอื่นๆมามอบให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติม มีเพียงข้อมูลจากโซเชียลมีเดียที่ได้มีการเผยแพร่ไปก่อนหน้านี้เท่านั้น ดีเอสไอจึงต้องมีการสืบสวนหาพยานหลักฐานอื่นๆเพิ่มเติมและจึงจะพิจารณาว่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับนักแสดงหนุ่มหรือไม่.