สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ยืนยัน คริสเตียโน โรนัลโด ดาวยิงกัปตันทีมชาติโปรตุเกส ไม่ใช่ผู้ทำประตูแรกให้ ทีมฝอยทอง ในเกมต้อน อุรุกวัย ขาดลอย 2-0 ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบแรก กลุ่ม H เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการพิสูจน์ว่า ศีรษะของ “ซีอาร์ 7” ไม่ได้สัมผัสลูกฟุตบอลแม้แต่น้อย ก่อนที่มันจะลอยผ่านมือ เซร์คิโอ โรเชต์ นายทวารทีมจอมโหด เข้าไปตุงตาข่าย
โรนัลโด อ้างว่า ศีรษะของเขาโดนลูกบอลแบบบาง ๆ ในจังหวะพยายามลอยตัวขึ้นโขกลูกโยนเข้ากลางของ บรูโน แฟร์นันด์ส ซึ่งได้รับเครดิตเป็นผู้ทำประตูนี้ ซึ่งจะทำให้เขาสร้างสถิติยิงในฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายได้ 9 ประตู แซงหน้า ลิโอเนล เมสซี คู่แค้นแสนรักของอาร์เจนตินา ขึ้นไปได้ 1 ประตู
นอกจากนี้ เพียร์ส มอร์แกน พิธีกรคนดังชาวเมืองผู้ดี ซึ่งเป็นผู้สัมภาษณ์ โรนัลโด จนนำไปสู่การยกเลิกสัญญากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังออกมาเปิดเผยด้วยว่า ดาวยิงวัย 37 ปี ยืนยันกับเขาด้วยตัวเองว่า ศีรษะของเขาโดนบอลก่อนจะลอยเข้าประตูไป แม้กระทั่ง แฟร์นันด์ส เองก็ยังคิดว่า โรนัลโด น่าจะโดนบอลเป็นคนสุดท้ายจริง ๆ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ฟีฟ่า ออกมายืนยันแล้วว่า โรนัลโด ไม่ใช่ผู้ทำประตูดังกล่าว และศีรษะของเจ้าตัวก็ไม่ได้สัมผัสลูกบอลด้วย พร้อมงัดเอาหลักฐานเป็นภาพจากเทคโนโลยี เซมิ ออโตเมเต็ด ออฟไซด์ และจากชิพที่ถูกฝังเอาไว้ในลูกฟุตบอล อัล ริห์ลา ซึ่งสามารถตรวจจับได้ว่า มีการสัมผัสลูกบอลเกิดขึ้นหรือไม่นั้น ขึ้นมาโชว์อีกต่างหาก
โฆษกของอาดิดาส ผู้ผลิตลูกฟุตบอล อัล ริห์ลา กล่าวว่า “ในเกมระหว่าง โปรตุเกส และอุรุกวัย เราสามารถแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า คริสเตียโน โรนัลโด ไม่ได้สัมผัสลูกบอลสำหรับประตูแรกที่เกิดขึ้นในเกมนี้ จากการใช้ คอนเนกเต็ด บอลล์ เทคโนโลยี ในลูกฟุตบอลอาดิดาส อัล ริห์ลา”
“ไม่มีแรงกระทำจากภายนอกลูกบอลที่เราสามารถวัดได้ดังที่แสดงให้เห็นด้วยเส้นกราฟในการวัดของเรา และในภาพกราฟิกที่แนบมา เซ็นเซอร์ความเร็ว 500Hz ภายในลูกบอล ทำให้เราสามารถวิเคราะห์ได้ด้วยความแม่นยำระดับสูง”.
ภาพ REUTERS, ทวิตเตอร์