สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ว่า คณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติ ( เอ็นเอชซี ) รายงานจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ประจำวันพฤหัสบดี 31,656 คน ในจำนวนนี้ 31,444 คน ติดเชื้อจากภายในประเทศ ถือเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการอุบัติของโรค เมื่อเกือบ 3 ปีที่แล้ว แบ่งเป็นการติดเชื้อแบบมีอาการ 3,927 คน และไม่แสดงอาการ 27,517 คน


ขณะเดียวกัน เอ็นเอชซียืนยันผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มอีกรายหนึ่ง นับเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 4 จากโรคดังกล่าว ซึ่งทางการจีนยืนยันตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา


ในอีกด้านหนึ่ง แหล่งข่าวในบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ยืนยัน “การควบคุมความไม่สงบ” จากการประท้วงของคนงาน ซึ่งแสดงความไม่พอใจอย่างหนักต่อมาตรการควบคุมโรคครั้งใหม่ ภายในโรงงานที่เมืองเจิ้งโจว ในมณฑลเหอหนาน ทางตอนกลางของประเทศได้แล้ว โดยโรงงานแห่งนี้ซึ่งเป็นสายงานการผลิตไอโฟนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์มาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา


อนึ่ง เอ็นเอชซีประกาศเมื่อต้นเดือนนี้ ปรับมาตรการ “7+3” มาเป็น “5+3” สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและผู้สัมผัสใกล้ชิด จากการเฝ้าระวังโรคในสถานกักกันของรัฐ 7 วัน และกักตัวต่อที่บ้านอีก 3 วัน ลงมาอยู่ที่ การกักตัวในสถานกักกันของรัฐ 5 วัน แล้วกักตัวต่อที่บ้านอีก 3 วัน


นอกจากนี้ เอ็นเอชซีประกาศยุติมาตรการติดตาม “ผู้สัมผัสระยะที่สอง” ที่หมายถึงบุคคลซึ่งไม่ใช่ผู้สัมผัสใกล้ชิดโดยตรง และการผ่อนคลายมาตรการให้ผู้โดยสารเที่ยวบินจากต่างประเทศสู่จีน ต้องแสดงผลตรวจโควิด-19 เป็นลบสองครั้ง ภายในระยะเวลา 48 ชั่วโมง ให้เหลือเพียงครั้งเดียว ภายในระยะเวลา 48 ชั่วโมง และยกเลิกมาตรการลงโทษสายการบิน ด้วยคำสั่ง “ระงับบินชั่วคราว” หากมีจำนวนผู้โดยสารติดโควิด-19 สะสมถึง “เกณฑ์อันตราย”.

เครดิตภาพ : REUTERS