เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้เสียหายนับ 10 ราย รวมตัวนำหลักฐานการสนทนา และโอนเงิน เข้าแจ้งความ สภ.เมืองชัยภูมิ ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.บี (นามสมมุติ) ซึ่งอ้างตัวเป็นนายหน้า ขายบ้านมือสองผ่านทางเฟซบุ๊ก โดย น.ส.ปราริญา เขื่อนพงษ์ อายุ 23 ปี ชาว ต.บ้านค่าย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ตัวแทนผู้เสียหายเปิดเผยว่า เห็นประกาศขายบ้านมือสองในเพจเฟซบุ๊ก “ซื้อ-ขาย บ้านมือสอง” แล้วสนใจจึงทักไปสอบถาม และ น.ส.บี ตอบกลับมาว่า ต้องการขายตรงตามที่ผู้เสียหายกำลังมองหาอยู่ราคาเกือบ 2 ล้านบาท และยังบอกว่า เป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว หากสนใจซื้อพร้อมจะรีโนเวทบ้านให้ใหม่ทั้งหลัง แต่ไม่สามารถเข้าไปดูบ้านได้ เพราะอ้างว่าเจ้าของบ้านยังขนของไปไม่หมด กลัวทรัพย์สินหาย พร้อมเสนอปรับแต่งบัญชีธนาคารให้อีกด้วย เพราะตนเป็นเพียงแม่ค้า มีเงินเดินบัญชีธนาคารไม่สวย อาจทำให้กู้ยาก พร้อมดำเนินการยื่นกู้ให้

น.ส.ปราริญา เล่าอีกว่า จากนั้นมีการนัดไปดูบ้านตัวจริงที่จะขาย พร้อมกับให้โอนเงินเป็นค่ามัดจำและค่าดำเนินการต่างๆ หลายครั้ง รวมเป็นเงินเกือบ 50,000 บาท พร้อมทั้งบอกว่า สินเชื่อที่ตนยื่นขอไปได้รับอนุมัติแล้ว แต่เมื่อติดต่อไปยังธนาคาร ก็ได้รับการปฏิเสธเรื่องการขอสินเชื่อ จึงโทรศัพท์ไปหา น.ส.บี ก็บอกว่าไม่ได้โกง เพราะไม่ได้เป็นผู้เรียกเก็บเงินค่าดำเนินการ เมื่อไปถามเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เรื่องจึงแดงขึ้น เพราะเจ้าของตัวจริงไม่เคยประกาศขายบ้าน และไม่รู้เรื่องการซื้อขายบ้านหลังดังกล่าวแต่อย่างใดเลย จึงกลับไปสอบถามแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ตรวจสอบในเพจ พบว่ามีผู้เสียหายอีกหลายราย จึงรวมตัวกันมาแจ้งความดังกล่าว

ส่วนผู้เสียหายอีกราย ไม่ประสงค์ออกนาม บอกว่า ถูกมิจฉาชีพรายนี้หลอกลวงในลักษณะคล้าย ๆ กัน มีการโอนเงินไปให้กว่า 30,000-50,000 บาท แต่เมื่อไปดูบ้านหลังที่ติดต่อซื้อขายกัน ก็พบว่า มีคนอาศัยในบ้านอยู่แล้ว และยังเป็นการติดต่อซื้อขายจากมิจฉาชีพรายเดียวกันนี้ด้วย โดยเมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกเสียเงินค่ามัดจำไปฟรีๆ แล้ว ก็ได้นำชื่อของมิจฉาชีพไปค้นหาในอินเทอร์เน็ต ก็พบว่ามีผู้เสียหายอีกเกือบ 10 ราย ที่ถูกมิจฉาชีพรายนี้หลอกลวง จำนวนความเสียหายเป็นเงินหลายล้านบาท

หลังแจ้งความ ร.ต.ท.นนทพัทธ์ บุดดี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ ได้รับเรื่องไว้ดำเนินการ อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด พร้อมรวมรวมพยานหลักฐาน ก่อนจะออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาหลอกลวงประชาชนและข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ต่อไป

ทั้งนี้ ผู้เสียหายยังได้ฝากเตือนอีกว่า มิจฉาชีพรายนี้ จะใช้ช่องโหว่เรื่องผู้ที่ต้องการจะซื้อบ้านมือสองราคาถูกและเรื่องเงินเดินบัญชีธนาคารไม่สวย อ้างว่าจะช่วยทำเรื่องให้ผ่าน และยังเข้ามาตีสนิทกับคนในครอบครัวเพื่อให้เราเชื่อใจ จึงอยากให้ตำรวจเร่งตามจับกุมตัวมิจฉาชีพรายนี้มาดำเนินคดี เพราะอาจจะไปก่อเหตุกับผู้อื่นอีก