สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซานโฮเซ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ว่า ศาลรัฐบาลกลางในเมืองซานโฮเซ รัฐแลคลิฟอร์เนีย มีคำพิพากษา เมื่อวันศุกร์ ให้ น.ส.เอลิซาเบธ โฮล์มส์ รับโทษจำคุกเป็นเวลา 11 ปี 3 เดือน จากความผิดฐานฉ้อโกงซึ่งมีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 322,290 ล้านบาท) ผ่านการจัดตั้งบริษัทสตาร์ทอัพ “เธรานอส” พัฒนาและผลิตอุปกรณ์ตรวจเลือดชื่อ “เอดิสัน” ว่า สามารถตรวจจับโรคมะเร็งและเบาหวานได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เลือดเพียงไม่กี่หยด


ทั้งนี้ ผู้พิพากษาประกาศว่า โฮล์มส วัย 38 ปี มีความผิดตามคฟ้อง 4 ข้อหา จากทั้งหมด 11 ข้อหา เกี่ยวกับการหลอกให้ลงทุน และการสมคบคิด โดยคณะลูกขุนสั่งฟ้องเธอ เมื่อเดือน ม.ค. ปีนี้ ขณะที่โฮล์มส์กล่าวต่อศาลว่า เธอเสียใจเป็นอย่างมาก และหากมีโอกาสอีกครั้ง เธอจะ “ทำหลายสิ่งหลายอย่างที่แตกต่าง”


ด้านทีมงานฝ่ายกฎหมายของโฮล์มส์ ยืนยันการยื่นอุทธรณ์ และเตรียมหลักทรัพย์เพื่อขอประกันตัวแล้ว อย่างไรก็ดี ศาลกำหนด “เส้นตาย” ให้จำเลยมอบตัวเพื่อเข้ารับการรับโทษ ภายในวันที่ 27 เม.ย. ปีหน้า


ย้อนกลับไปเมื่อปี 2557 นิตยสารฟอร์บส์เคยขนานนามให้โฮล์มส์เป็น “อภิมหาเศรษฐีหญิงอายุน้อยสร้างตัวเอง” และ “สตีฟ จ็อบส์ คนใหม่” จากการก่อตั้งบริษัทเธรานอส ซึ่งมีมูลค่าตลาดในเวลานั้นสูงถึง 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 161,145 ล้านบาท)

อย่างไรก็ตาม เธรานอสปิดตัวเมื่อปี 2561 และตกเป็นเป้าหมายของการตรวจสอบอันอื้อฉาวจากหลายฝ่าย โดยมีจุดเริ่มต้นจากบทความหลายชิ้นของเดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล เมื่อปี 2558 ที่ตั้งข้อสังเกตและ “จับผิด” ว่า อุปกรณ์ตรวจเลือดของโฮล์มส์นั้น “ใช้ได้จริงหรือ”.

เครดิตภาพ : REUTERS