เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปชายวัยกลางคน ได้เข้ามาอาละวาดเอะอะโวยวายและพังประตูรั้วหน้าบ้าน พร้อมระบุข้อความว่า “ขอความช่วยเหลือหน่อยคร้าาาาาาาา” ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ 13 พ.ย. 65 เวลาประมาณ 19.00 น. สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้โพสต์ และแม่เป็นอย่างมาก

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตามหาเจ้าของโพสต์ พบนางเรืองศรี (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน โดยนางเรืองศรี เล่าว่า ชายในคลิปดังกล่าว เป็นน้องชายของตน ชื่อ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี โดยวันที่เกิดเหตุ ได้เข้ามาขอเงินกับตนเหมือนเช่นเคย แล้วก็บอกว่าหิวข้าว จึงได้นำเงินกับข้าวไปให้ แต่พอยื่นให้ บอกว่าไม่พออยากได้เพิ่มอีก แต่ตนไม่มีให้ เพราะเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา เพิ่งจะมาขอเงินไป 15,000 บาท โดยบอกว่าจะเอาไปลงทุนกับคนรักเขา ตนก็ให้ไปโดยไม่คิดว่าน้องชายจะกลับมารบกวนอีก

กระทั่งวันที่ 13 พ.ย. น้องชาย ได้มาโวยวายอาละวาดแล้วก็พังประตูรั้วบ้าน โดยปกติแล้วตนกับน้องชายจะอยู่บ้านคนละหลัง ห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตร โดยน้องชายของตนมีพฤติกรรมติดยาเสพติดมาเกือบ 20 ปีแล้ว ซึ่งยาเสพติดทุกอย่างจะเอาหมด ก่อนหน้านี้ก็ได้เข้ามาทำลายข้าวของภายในบ้าน และได้ใช้มีดฟันรถจักรยานยนต์ของตนพังมาแล้ว ทำให้ตนกับลูกสาวอยู่อย่างหวาดผวามาโดยตลอด เพราะบ้านตนนั้นอยู่กันเพียงแค่ 2 คนแม่ลูก

ทั้งนี้ ในวันเกิดเหตุตนได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กุฉินารายณ์ ให้เข้ามาควบคุมตัวน้องชายไปสงบสติอารมณ์ แต่หลังจากน้องชายพังบ้านของตนแล้ว ก็กลับบ้านไปนอน ตำรวจเลยคิดว่าคงสงบแล้ว ก็เลยไม่ได้ควบคุมตัวไปโรงพัก กระทั่งต่อมาวันที่ 14 พ.ย. น้องชายตนเกิดคลุ้มคลั่ง เดินเข้าไปถีบประตูของเพื่อนบ้านที่อยู่บ้านฝั่งตรงข้ามอีก โดยตอนเกิดเหตุนั้น เป็นช่วงตอนกลางวัน เพื่อนบ้านเป็นหญิงได้เลี้ยงลูกน้อยอยู่ภายในบ้าน ทำให้เจ้าของบ้านหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ หลังจากเกิดเหตุ ตนก็ได้นำหลักฐานเข้าไปแจ้งความที่ สภ.กุฉินารายณ์ และได้นำคลิปวิดีโอโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว

นอกจากนี้ ก่อนหน้า นายเอ ยังได้ปาขวดใส่ร้านค้า และมักก่อเหตุอาละวาดบ่อยครั้ง จนชาวบ้านผวาไปตามๆ กัน โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวนายเอ ไปดำเนินดีตามกฎหมาย ในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) และบุกรุกเคหสถานฯ อยู่ระหว่างการส่งตัวไปบำบัดฟื้นฟู

ขณะที่ นายนิรุจ หนูดี เจ้าของบ้านที่ถูกบุกไปถีบประตู ทราบว่า นายเอ ถูกจับกุมแล้ว แต่ก็ยังกลัวว่า ภรรยาและลูกจะไม่ปลอดภัย เพราะไม่รู้ว่าตำรวจจะปล่อยตัวออกมาวันไหน จึงได้พาภรรยาและพ่อตาไปหลบอยู่ที่นา โดยตอนเช้าก่อนออกไปทำงาน ก็จะไปส่ง พอเลิกงานก็จะไปรับ ช่วงนี้ตนต้องขับรถไปกลับระหว่าง อ.หนองกรุงศรี กับ อ.กุฉินารายณ์ ทุกวัน เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกและภรรยา.