สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 16 ส.ค. โดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย จากสถานการณ์วุ่นวายและโกลาหล ที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮามิด คาร์ไซ ในเขตชานกรุงคาบูล เบื้องต้นยังไม่มีการให้ข้อมูลชัดเจน ว่าผู้เสียชีวิตเป็นใครบ้าง และเสียชีวิตด้วยสาเหตุอันใด แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นในเวลาเดียวกับที่กองทัพสหรัฐ "ควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จเหนือพื้นที่ทุกตารางนิ้ว" ของสนามบินแห่งนี้ เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่การทูตของสหรัฐ และพลเรือนอเมริกัน "ได้รับความสะดวกและความปลอดภัย ในการอพยพก่อน"
ด้านกลุ่มตาลีบันซึ่งยกพลเข้าสู่กรุงคาบูล เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เริ่มการเรียกเก็บอาวุธจากครัวเรือนในกรุงคาบูล โดยให้เหตุผลว่า "พลเรือนทั่วไป" ไม่จำเป็นต้องถือครองอาวุธ เนื่องจากสถานการณ์ในเมืองหลวงของอัฟกานิสถาน "ปลอดภัย"
ขณะที่ นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า สถานการณ์ในอัฟกานิสถาน "คือความเป็นจริงที่ต้องยอมรับ" ว่า "เร็วกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้มาก" เนื่องจากกองกำลังด้านความมั่นคงไม่สามารถปกป้องบ้านเมืองของตัวเองได้ 
อย่างไรก็ตาม ภาพเฮลิคอปเตอร์บินเข้าและออกจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงคาบูล เพื่ออพยพนักการทูตและพลเมืองที่ตกค้าง ตลอดจนเพื่อการขนย้ายสิ่งของว่า "เป็นคนละบริบท" กับเหตุการณ์ "เสียกรุงไซ่ง่อน" เมื่อปี ค.ศ. 1975 หรือ พ.ศ.2518 ที่กองกำลังเวียดนามเหนือยึดครองกรุงไซ่ง่อน เมืองหลวงของเวียดนามใต้ โดยก่อนการบุกยึดเกิดขึ้น รัฐบาลวอชิงตันเร่งอพยพเจ้าหน้าที่การทูตและพลเมืองออกจากกรุงไซ่ง่อน
ทั้งนี้ บลิงเคนให้เหตุผลว่า สหรัฐเข้าสู่อัฟกานิสถานโดยมีเป้าหมายชัดเจน นั่นคือการโค่นอำนาจรัฐบาลตาลีบัน หลังเหตุวินาศกรรม 9/11 เมื่อปี 2544 และการสังหารนายโอซามา บิน ลาเดน ผู้ก่อตั้งกลุ่มอัล-กออิดะห์ และสหรัฐ "บรรลุเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว".

เครดิตภาพ : AP