เมื่อวันที่ 6 พ.ย. พ.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุริยะ สว.(สอบสวน) สภ.บ้านคลองเต็ง อ.เมือง ตรัง รับแจ้งเหตุ มีคนโดนยิงเสียชีวิตภายในรถยนต์ หน้าบ้านหลังหนึ่ง ต.นาท่ามใต้ หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุหน้าบ้านปูนชั้นเดียว พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สี่ประตู สีเทา ทะเบียน ภล 9278 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ ตรวจสอบภายในรถเบาะที่นั่งหลังคนขับ พบร่างผู้เสียชีวิต อายุ 69 ปี เป็นอดีตข้าราชการบำนาญ กรมชลประทาน สภาพศพสวมเสื้อลาย นุ่งกางเกงขาสั้น มือขวานั่งกำอาวุธปืนพกสั้นชนิดออโตเมติก ขนาด .380 นั่งก้มหน้าตะแคงไปทางซ้าย ร่างโชกเลือดเปรอะเปื้อนบนเบาะรถ พบบาดแผลลักษณะจ่อยิงเข้าที่ขมับขวาทะลุกกหูซ้าย 1 นัด เจ้าหน้าที่ตรวจพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ในรถ จำนวน 1 ปลอก ส่วนหัวกระสุนยังหาไม่เจอ ในมือยังกำปืนเอาไว้แน่น แต่ไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวอาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คน คือ ผู้ตาย ภรรยา และแม่ของผู้ตาย อายุ 90 ปี ก่อนเกิดเหตุช่วงประมาณ 20.30 น. ผู้ตายได้หายออกไปจากบ้าน ทำให้ภรรยาออกตามหาแต่หาไม่พบ จึงได้เรียกบรรดาญาติ ๆ มาช่วยกันตามหา จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.52 น. จึงพบว่าผู้ตายเสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์กระบะที่จอดอยู่ในโรงรถ ซึ่งผู้ตายมีโรคความดันโลหิตสูง เป็นโรคประจำตัวเพียงอย่างเดียว ตำรวจจึงสันนิษฐานว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากความเครียดที่ผู้ตายเพิ่งได้รับข้อความเป็นหนังสือเตือนจากหน่วยงานหนึ่ง ให้ไปชำระเงินต้นนับล้านบาท เนื่องจากผู้ตายได้ไปค้ำประกันให้เพื่อนคนหนึ่ง แต่เพื่อนหนีหนี้ ทำให้ภาระทั้งหมดตกมาอยู่ที่ผู้ตาย จึงทำให้ผู้ตายตัดสินใจยิงตัวตายบนรถยนต์กระบะคู่ใจ โดยปิดประตูรถทั้ง 4 ประตู เพื่อไม่ให้คนในบ้านได้ยินเสียงปืน ซึ่งญาติไม่ได้ติดใจสงสัยสาเหตุการตายดังกล่าว และอยากฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่จะไปค้ำประกันให้ใคร ขอให้มีความรอบคอบและระมัดระวังให้มากขึ้น

คนใกล้ชิด ระบุว่า ผู้ตามมีอาการเครียดและบ่นเรื่องไปค้ำประกันเงินกู้ให้กับเพื่อน กระทั่งวันเกิดเหตุได้เดินออกมาจากบ้านและตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงปลิดชีพตัวเองหนีปัญหา ท่ามกลางความโศกเศร้าของลูกหลานและบรรดาญาติๆ ทั้งนี้ ทราบว่าผู้ตายเป็นคนดี ไม่มีมูลเหตุขัดแยงกับใคร ไม่มีโรคประจำตัว ทางญาติไม่ติดใจสาเหตุการตายก่อนรับศพไปกระกอบพิธีทางศาสนาต่อไป.