สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ว่านายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ลงพื้นที่เมืองมอร์บี ในรัฐคุชราต ทางตะวันตกของประเทศ เพื่อสำรวจและสังเกตการณ์การปฏิบัติงานของหน่วยกู้ภัยที่มีทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน ในการค้นหาผู้สูญหาย จากเหตุสะพานแขวนข้ามแม่น้ำมัจฉุ ตั้งอยู่ในเมืองมอร์บี พังถล่มเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 141 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 100 คน
#WATCH | PM Modi along with Gujarat CM Bhupendra Patel visits the cable bridge collapse site in Morbi, Gujarat
— ANI (@ANI) November 1, 2022
135 people lost their lives in the tragic incident pic.twitter.com/pXJhV7aqyi
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ประเมินจำนวนผู้อยู่บนสะพานขณะเกิดเหตุไว้ที่มากกว่า 200 คน แม้มีการขายบัตรข้ามสะพานไปมากกว่า 400 ใบ แต่พนักงานสอบสวนมองว่า ไม่จำเป็นที่ทุกคนต้องอยู่บนสะพานในเวลาเดียวกัน โดยสะพานแห่งนี้มีความสูงประมาณ 10 เมตร ยาว 233 เมตร แต่กว้างเพียง 1.25 เมตร
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/11/2022-11-01T051400Z_766790316_RC2RCX9UKD71_RTRMADP_3_INDIA-ACCIDENT-BRIDGE.jpg)
ขณะที่โมดีขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันถอดบทเรียน และการสอบสวนต้องเป็นไปอย่างละเอียด และโปร่งใสมากที่สุด เพื่อค้นหาให้ถึงต้นตอของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ด้านพรรคคองเกรสซึ่งเป็นแกนนำฝ่ายค้าน เรียกร้องมุขมนตรีรัฐคุชราตลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบ
ด้านสำนักงานตำรวจรัฐคุชราตรายงานการจับกุมผู้ต้องสงสัย 9 คน ในจำนวนนี้ 4 คน เป็นพนักงานของบริษัทโอเรวา ซึ่งทำหน้าที่ซ่อมสะพานมอร์บี ส่วนที่เหลือรวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบนสะพาน ด้านโอเรวายังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการต่อการจับกุมที่เกิดขึ้น โดยข้อมูลจากแหล่งข่าวเกี่ยวกับการสอบสวนระบุว่า โอเรวาไม่ได้แจ้งให้ทางการรับทราบล่วงหน้า ว่าจะกลับมาเปิดใช้งานสะพานแห่งนี้
![](https://t.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/11/2022-11-01T121910Z_2033602716_RC2UCX9A4LAB_RTRMADP_3_INDIA-ACCIDENT-BRIDGE.jpg)
อนึ่ง ข้อมูลจากสื่อท้องถิ่นหลายแห่งระบุว่า สะพานแห่งดังกล่าว ซึ่งมีความยาวประมาณ 230 เมตร ก่อสร้างเมื่อยุคศตวรรษที่ 19 ในสมัยอินเดียยังอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิอังกฤษ และมีการปิดซ่อมแซมนานถึง 6 เดือน ก่อนกลับมาเปิดใช้งาน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว.
เครดิตภาพ : REUTERS