ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เผย วันนี้ จะหารือ กสทช. (สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) เพื่อสรุปทุกอย่าง ในเรื่องการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ คาดว่าค่าลิขสิทธิ์ สูงถึง 1,5000 ล้านบาท โดยภาครัฐจะเป็นแกนหลักในการจ่ายค่าลิขสิทธิ์
ฟุตบอลโลก 2022 จะเตะ 20 พ.ย.-18 ธ.ค.นี้ โดยในเรื่องการถ่ายทอดสดในไทย ยังไม่มีความชัดเจน แต่ทางรัฐบาล ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำชับว่า คนไทยต้องได้ดูฟรีๆ
ล่าสุด ช่วงเช้าวันที่ 28 ต.ค.65 รายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ได้สัมภาษณ์ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ถึงความเคลื่อนไหวล่าสุด ในการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดของไทย ที่อีกไม่ถึงเดือน จะเริ่มแข่งแล้ว
ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า กกท. ติดตามความเคลื่อนไหวมาตลอก จากทางภาคเอกชนว่ามีแนวโน้มอย่างไร กระทั่งตอนนี้กระชั้นแล้ว ยังไม่ปรากฏชัดว่าจะมีเจ้าภาพเอกชนใด เป็นแกนนำ ภาครัฐจึงเริ่มขยับหาข้อมูลต่างๆ ในการพูดคุยตัวแทนเจ้าของสิทธิ ได้ข้อมูลพอสมควร สรุปเรื่องต่างๆ ได้หารือเบื้องต้น กสทช. ในเรื่องรูปแบบว่าจะทำอย่างไร ดึงภาครัฐ ภาเอกชน ร่วมมือกัน ให้คนไทยได้ดูบอลโลก ฟรีๆ ตามที่นายกฯ รองนายกฯ กล่าว
“จะสรุปทุกอย่างวันนี้ (28 ต.ค.) ในการประชุม กสทช. ที่ผมจะไปร่วมประชุมชี้แจง” ดร.ก้องศักด ระบุ
เกี่ยวกับค่าลิขสิทธิ์นั้น ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า จะคิดเป็นโซนๆ สภาพเศรษฐกิจ สังคม สำหรับไทย อยู่ระดับเดียวกับ มาเลเซีย, อินโดนีเซีย แต่คนละกลุ่มกับเวียดนาม กัมพูชา ประเทศที่ตลาดเล็กกว่า กำลังซื้อน้อยกว่า แต่ตัวเลขชัดๆ ยังอยู่ในเรื่องพูดคุย ยังไม่สามารถตอบชัดเจน
แต่หากจะเทียบกลม กับประเทศเพื่อนบ้าน คาดว่าค่าลิขสิทธิ์ อยู่ที่ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.5 พันล้านบาท) หรือ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปลายๆ
“แต่ตัวเลข ไม่ใช่ของประเทศไทย นี่เทียบเคียงประเทศอื่น แต่ไทยต้องมีราคาเฉพาะอีกครั้ง” ผู้ว่าการ กกท.กล่าว
เมื่อถามถึงราคาดังกล่าว ที่ค่อนข้างแพง ดร.ก้องศักด กล่าวว่า เป็นเหตุผลหนึ่งที่ค่อนข้างยากลำบาก ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ต้องหาภาคเอกชนมาช่วยด้วย ซึ่งการซื้อลิขสิทธิ์ มีแพ็กเกจเดียว ต้องออกได้ทุกแพลตฟอร์ม แค่ไทยจะซื้อหรือไม่ซื้อเท่านั้น ไม่มีแพ็กเกจที่ต่ำกว่า
ดร.ก้องศักด กล่าวต่อไปว่า จะคุย กสทช. ทุกอย่าง ในการได้สิทธิมา โดยภาครัฐไม่มีภาระมากเกินไป ในเรื่องการดำเนินการ การจัดสรรคช่อง ทำอย่างไรให้เป็นธรรม
เมื่อถามถึงที่มาของเงิน ดร.ก้องศักด กล่าวว่า ตอนนี้มีคร่าวๆ ยังไม่ชัด สำหรับภาครัฐส่วนหนึ่งมาจาก กสทช. ส่วนหนึ่ง กกท. ซึ่ง กกท. คงต้องขอเงินกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ แต่เงินกองทุนนั้น มีแผนการใช้เงินอยู่แล้ว ที่กำหนดล่วงหน้า ฟุตบอลโลก ไม่อยู่ในรายการใช้จ่าย ต้องมาดูอีกครั้งว่า ทำอย่างไร พร้อมยอมรับว่า อาจต้องขอเงินจาก งบกลาง ด้านสัดส่วนการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ ยังไม่คิดว่าเท่าไหร่ แต่ส่วนใหญ่จะมาจากภาครัฐ แล้วหาเอกชนมาช่วยให้ได้มากสุด
เมื่อพิธีกรถามว่า คุ้มหรือไม่ กับการเอาเงินของคนทั้งประเทศ มาตอบสนองคนบางกลุ่ม ดร.ก้องศักด กล่าวว่า ไม่ได้เป็นการตอบสนองคนบางกลุ่ม แต่เป็นการสร้างกระแสกีฬา การรณรงค์กีฬาโดยรวมต่อเนื่อง มีผลสร้างแรงบันดาลใจ สร้างความสุข ส่วนกีฬาอื่นที่ภาครัฐไม่ได้ไปซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด เพราะรูปแบบคือ ให้เอกชนเป็นหลัก ถ้าเอกชนไม่มีศักยภาพ จะไปช่วย.