เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ตำรวจ สภ.เมืองตรัง คุมตัว จ.ส.ต.ชุติพนธ์ นาคแก้ว หรือ จ่าเบิร์ด ผบ.หมู่ ป. สภ.บ้านหนองเอื้อง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ช่วยราชการหน่วยปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง หรือหน่วยสวาท (S.W.A.T) ไปฝากขังนัดแรกที่ศาลจังหวัดตรัง ซึ่งจ่าเบิร์ด ออกจากห้องขังด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่ยอมตอบคำถามใด ๆ กับผู้สื่อข่าว ก่อนจะเดินขึ้นรถตำรวจเดินทางไปยังศาลทันที

เบื้องต้น จ่าเบิร์ด ถูกตั้ง 4 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่าผู้อื่น, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดในเมือง และพกพาอาวุธและเครื่องกระสุนไปในที่สาธารณะ ซึ่งจ่าเบิร์ดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนปมขัดแย้งที่ต้องใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ซึ่งเป็นปืนของทางราชการยิง นายจิตกร คงจันทร์ หรือ ขาว อายุ 32 ปี รวม 9 นัด จนเสียชีวิตคาผับดัง “คันทรี่โฮม” ใจกลางเมืองตรัง และมีผู้ถูกลูกหลงบาดเจ็บอีก 2 ราย คือ นายเอกพจน์ เพ็ชรรัตน์ อายุ 34 ปี และนายพิศิษฐ อภิวันทร์ภักดี อายุ 38 ปี เมื่อคืนวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา

จ่าเบิร์ด เผยสาเหตุความไม่พอใจที่ผู้ตายเดินเข้ามาผลักพร้อมตบศีรษะ และด่าบุพการรี หลังจ่าเบิร์ดเดินกลับจากสูบบุหรี่ในห้องน้ำ จนขณะเดินกลับ มีเก้าอี้วางขวางทางอยู่ จึงได้ใช้มือยกพนักพิงและใช้เท้าดันขาของเก้าอี้ให้ขยับ ทำให้เก้าอี้ไปชนโต๊ะผู้เสียชีวิต ผู้เสียชีวิตจึงไม่พอใจเข้าไปผลักและตบผู้ก่อเหตุ ทำให้จ่าเบิร์ดซึ่งขณะนั้นอยู่ในอาการมึนเมา ได้ชักอาวุธปืนที่พกติดตัวมารัวยิงผู้ตายรวม 9 นัด ก่อนจะขับรถยนต์หลบหนีไปที่ห้องทำงานของหน่วยสวาท ภายในกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง

เพื่อไปเอาเสื้อเกราะกันกระสุนและอาวุธปืนยาว M 4 ติดตัวไปด้วย โดยอ้างว่า เอาไว้ป้องกันตัว เพราะกลัวว่าฝ่ายตรงข้ามจะเข้ามาทำร้าย จนกระทั่งผ่านไป 1 คืน คือเช้าวันที่ 26 ต.ค. เวลา 06.00 น. จ่าเบิร์ดได้กลับไปหามารดาและให้ติดต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อขอเข้ามอบตัว โดยไม่ขอประกันตัวและไม่ต่อสู้คดีใดๆ ในชั้นศาล ทั้งยังให้การรับสารภาพตลอดข้อหา