เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่า ที่วัดใหม่สามัคคี หมู่ที่ 4 ต.ห้วยโป่ง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ มีพระพุทธรูปที่ช่างพม่าแกะจากไม้ที่ยืนต้นตาย โดยชาวบ้านเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ใครที่ขัดสนเรื่องเงินทอง หรือติดขัดสิ่งใด หากไปขอพรก็จะได้สมความปรารถนา จนได้ชื่อว่า “หลวงพ่อห้ามจน” ทำให้มีผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาเดินทางมาขอพรอย่างไม่ขาดสาย จึงเดินทางไปตรวจสอบ

พบว่าวัดดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าช้าเก่า กลางทุ่งนา หมู่ที่ 4 ต.ห้วยโป่ง มีชาวบ้านจำนวนหนึ่ง กำลังจุดธูปเทียนเพื่อขอพรจากพระพุทธรูปดังกล่าว ซึ่งมีลักษณะยืนคล้ายปางห้ามญาติ โดยยกพระหัตถ์ขวาขึ้นเสมอพระอุระ (อก) ตั้งฝ่าพระหัตถ์ยื่นออกไปข้างหน้าทั้ง 2 ข้าง เป็นกิริยาห้าม มีลักษณะอ่อนช้อยคล้ายศิลปะพม่า มีแผ่นทองปิดทั่วทั้งองค์ ซึ่งหลังจากกราบขอพรแล้ว หลายคนได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายและซูมไปตามจุดต่างๆ ขององค์พระ เพื่อส่องหาเลขเด็ด

ชาวบ้านรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนมาขอพรเมื่อหลายวันก่อน ได้ใช้โทรศัพท์ส่องที่ฐานองค์พระ และมองเห็นเป็นเลข 32 จึงได้ไปหาซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลมาไว้ เผื่อหลวงพ่อจะช่วยให้หายจนบ้าง บางรายที่ไม่อยากส่องให้เสียเวลา ก็ใช้วิธีล้วงไห ซึ่งบรรจุลูกปิงปองที่เขียนตัวเลขไว้ เพื่อนำไปเสี่ยงโชคได้

พระมหาดุสิต อิทธิโชโต เลขานุการเจ้าอาวาสวัดใหม่สามัคคี เปิดเผยว่า ปี 59 อาตมาได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ และฝันเห็นชายนุ่งขาวห่มขาวบอกว่าจะมาช่วยพัฒนาวัดแห่งนี้ พร้อมกับชี้ให้ดูต้นไม้ที่ยืนต้นตาย พร้อมทั้งบอกว่า ให้จำต้นไม้ต้นนี้ไว้ให้ดี กระทั่งรู้ข่าวว่ามีต้นไม้ยืนต้นตายอยู่ที่วัด จ.ลพบุรี จึงเดินทางไปดูก็พบว่ามีลักษณะตรงกับในฝัน จึงขอซื้อและให้ช่างแกะสลักเป็นพระพุทธรูป โดยตั้งใจไว้ว่าจะอัญเชิญมาเป็นพระประธานประจำวัด แต่ปรากฏว่าช่างที่มาแกะสลักหลายคนล้มป่วยอย่างไม่ทราบสาเหตุ จึงได้นำไม้ดังกล่าวใส่รถเพื่อที่จะนำกลับมาที่วัด

ต่อมาบังเอิญได้พบกับช่างแกะสลักชาวพม่า และอาสาจะแกะสลักให้ แต่เครื่องมือไม่มีจึงจะขอนำไปแกะที่ฝั่งประเทศเมียนมา ตนจึงได้ให้ไปและให้ช่างแกะตามความคิดและความชำนาญ ผ่านไปไม่นานช่างคนดังกล่าวก็นำพระพุทธรูปที่แกะจากไม้ต้นดังกล่าวมาส่งที่วัด มีลักษณะเป็นปางห้ามญาติ โดยยกพระหัตถ์ทั้ง 2 ข้าง อ่อนช้อย งดงาม เป็นอย่างมาก หลังจากนั้นได้นำมาประกอบพิธีพุทธาภิเษก และประดิษฐานเป็นพระประธานไว้ภายในศาลาแห่งนี้

ต่อมาได้มีนักธุรกิจชาว จ.ชลบุรี เดินทางมาทำบุญที่วัด ปรับทุกข์ว่า ธุรกิจขาดทุนนับร้อยล้านบาท รู้สึกท้อและเครียดมาก ตนจึงให้กำลังใจ พร้อมทั้งให้ไปกราบขอพรพระพุทธรูปที่แกะจากไม้ภายในศาลา หลังจากนักธุรกิจรายดังกล่าวกลับไปแล้ว หลายเดือนต่อมาได้ติดต่อกลับมาว่า หลังจากกลับไปแล้วธุรกิจก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จนในขณะนี้ หนี้ที่มีอยู่นับร้อยล้านบาทได้หมดไปแล้ว และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นักธุรกิจคนดังกล่าวก็นำกฐิน ผ้าป่า และมาร่วมทำบุญที่วัดเป็นประจำทุกปี

อาตมาและชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างก็ยินดีด้วย และเชื่อว่า ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะขอพรจากพระประธานที่ทำจากไม้ก็เป็นได้ จึงได้เรียกกันต่อๆ มาว่า “หลวงพ่อห้ามจน” หลังจากที่ข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป ก็มีผู้ที่มีจิตศรัทธาและผู้ที่ขัดสน มากราบขอพร ซึ่งก็มีสมหวังดังตั้งใจหลายราย แต่ทั้งนี้ตนก็ได้ให้สติญาติโยมว่า นอกจากขอพรขอโชคจากหลวงพ่อห้ามจนแล้วจะต้องทำงานด้วย ไม่ใช่ว่าจะขอและรออย่างเดียว นอกจากนั้น การที่แต่ละคนจะโชคดีมีโชคลาภ ก็ต้องอยู่ที่บุญวาสนา บุญบารมีของแต่ละคนด้วย