เมื่อวันที่ 26 ต.ค. นายพงศธร สุวรรณรักษา ทนายความ พานักธุรกิจชาวมาเลเซียพร้อมภรรยาชาวไทย เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา จ.สงขลา แจ้งความอ้างว่า ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างเป็นตำรวจเข้าจับกุมที่บ้านพัก ใน.พื้นที่ สภ.สะเดา โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้มีชายฉกรรจ์ 2 คน บุกมาจับตัวตนกับเพื่อนนักธุรกิจชาวมาเลเซียอีกคน ขณะกำลังนั่งสูบบารากู่อยู่หน้าบ้าน โดยอ้างว่าเป็นตำรวจ ต่อหน้าภรรยาและลูกๆ โดยไม่ได้แสดงบัตรตำรวจแต่อย่างใด แต่ระหว่างทางตนรู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะไม่มั่นใจว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ จึงตัดสินใจกระโดดลงจากรถหลบหนีมาได้

นักธุรกิจชาวมาเลเซีย เล่าอีกว่า หลังถูกนำตัวออกมาจากบ้าน ภรรยาได้ติดต่อสอบถามไปที่ สภ.สะเดา ว่า สามีถูกจับมาเรื่องอะไร แต่ตอนนั้นทางโรงพักแจ้งว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว กระทั่งมาทราบภายหลังว่า ตนกระโดดลงจากรถหนีมาได้ แล้วเรื่องก็เงียบหายไป ไม่มีใครมาตามหรือตำรวจมาอีก แต่หลังจากนั้นปรากฏว่า มีการข่มขู่ให้เพื่อนชาวมาเลเซียอีกคนที่ถูกจับด้วยกัน โทรศัพท์มาบอกว่า อย่างเอาเรื่องกับชาย 2 คนดังกล่าว เพราะเดี๋ยวจะทำให้ชาวมาเลเซียที่ทำธุรกิจใน อ.สะเดา จะลำบากไปด้วย ยิ่งทำให้ตนกลัวความไม่ปลอดภัยจึงไปปรึกษาทนายความ พร้อมนำภาพกล้องวงจรปิดหน้าบ้าน ขณะมีรถกระบะมาจอดหน้าบ้านและชาย 2 คน ลงมาพูดคุยก่อนนำตัวขึ้นรถไป มาเป็นหลักฐานแจ้งความดังกล่าว

นายพงศธร เปิดเผยว่า เรื่องนี้ผู้เสียหายเป็นนักธุรกิจชาวมาเลเซียที่มีภรรยาคนไทยมีบุตรร่วมกัน ร้องเรียนว่า ขณะนั่งอยู่หน้าบ้านถูกบุคคล 2 คน อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัวกับเพื่อนอีกคนขึ้นรถ โดยไม่แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน ไม่แจ้งข้อหาที่ถูกจับ ไม่แจ้งสิทธิตามกฎหมาย โดยในคลิปหลักฐานเห็นชัดขณะเกิดเหตุ ลูกผู้เสียหายร้องไห้น่าสงสาร ต่อมาภรรยาชาวไทยติดตามมาที่ สภ.สะเดา แต่ก็พบว่าไม่ได้ถูกนำตัวไปที่โรงพัก และจากนั้นมาทราบว่า ได้กระโดดหนีจากรถหลบหนีมาได้แล้ว แล้วเข้ามาปรึกษาตนและพบว่ามีการข่มขู่อีก วันนี้จึงพามาแจ้งความร้องทุกข์ให้ติดตามตัวบุคคลที่อ้างตัวเป็นตำรวจทั้งสอง มาสอบสวนดำเนินคดีให้ถึงที่สุดต่อไป