เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 25 ต.ค. ร.ต.อ.หญิง แพรวพรรณ นวลคล้ำ รอง สว.(สอบสวน) สน.นพวงศ์ รับแจ้งมีผู้ถูกไม้ตีเสียชีวิต ภายในสถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ แขวงและเขตบางซื่อ กรุงเทพฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์ แพทย์นิติเวช รพ.ตร. และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่บนชานชาลาที่สอง บริเวณม้านั่งยาว พบร่าง นายสุจินต์ ภูแด่น อายุ 61 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ สภาพนั่งเหยียดยาว สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงยีนขายาว ใส่รองเท้าผ้าใบ ถูกตีด้วยไม้เข้าที่ศีรษะ มีบาดแผลที่ทัดดอกไม้ด้านขวา และกะโหลกด้านหลังซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์ ข้างกายมีถุงกระสอบใส่สัมภาระวางอยู่ 1 ใบ และในตัวพบเอกสารประจำตัว ถุงพลาสติกใส่เงิน 231 บาท เงินสัญชาติลาวและอินโดนีเซีย อย่างละใบ ตรวจสอบพบตั๋วรถไฟเดินทางมาจาก จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา และหมวกแก๊ปสียีน ใกล้กันพบไม้หน้าสาม ยาวประมาณ 1 เมตร ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ คาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้สังหารถูกทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ด้านพยานที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่า เมื่อช่วง 21.00 น. วันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา เห็นผู้ตายเข้ามานั่งกินกวยจั๊บที่ร้านเพียงลำพัง มีลักษณะปกติ ไม่เหมือนคนเมาสุราแต่อย่างใด จากนั้นไม่นาน ก็ทราบว่ามีผู้เสียชีวิตที่ชานชาลา เมื่อมาดูก็พบว่าเป็นชายคนเดียวกัน
ด้านพนักงานรักษาความปลอดภัยของสถานี ระบุว่า ก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจากพนักงานขับรถไฟที่กำลังออกจากสถานีบางซื่อ ว่ามีคนถูกทำร้ายบริเวณชานชาลาที่สอง จึงเดินทางมาตรวจสอบก็พบชายคนดังกล่าวนั่งเสียชีวิตแล้ว ส่วนผู้ก่อเหตุไม่พบตัว
ทั้งนี้ นายอ้วน (นามสมมุติ) พนักงานรักษาความปลอดภัย ระบุว่า เมื่อช่วงหัวค่ำหลังจากที่ออกเวร และกำลังจะไปพักผ่อน เห็นชายอายุประมาณ 40 ปี ผมยาวเซอร์ สวมเสื้อคอปกสีเทา นั่งอยู่ริมชานชาลาที่หนึ่ง จึงเกรงว่าจะเกิดอันตราย เพราะจะมีรถไฟเข้ามา จึงไล่ให้ไปนั่งที่ชานชาลาที่สอง ซึ่งขณะนั้นมีชายอีกคนนั่งอยู่ คาดว่าจะเป็นผู้ตาย จากนั้นตนได้กลับไปพักผ่อน จนมาทราบทีหลังว่า ในจุดดังกล่าวมีคนถูกทำร้ายเสียชีวิต จึงคาดว่าผู้ก่อเหตุ เป็นบุคคลเดียวกับที่โดนตนไล่ให้ขึ้นไปนั่งที่ชานชาลา
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบชายแต่งกายคล้ายชุดสีดำ เดินอยู่ในละแวกดังกล่าว ลักษณะเหมือนตามหาคน เมื่อพบผู้ตายจึงเดินไปหยิบไม้ในจุดที่ห่างออกไป ก่อนจะเดินกลับมาฟาดใส่ที่บริเวณศีรษะ จนเสียชีวิต ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะเดินหลบหนีไปที่สุดปลายสถานี เบื้องต้นตำรวจอยู่ระหว่างไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.