สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงยามูซูโกร ประเทศไอวอรีโคสต์ เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ว่า กระทรวงสาธารณสุขของไอวอรีโคสต์ และองค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เรื่องการพบผู้ป่วยยืนยันจากโรคอีโบลา เป็นคนแรกนับตั้งแต่ปี 2537 โดยเป็นเด็กสาววัย 18 ปี มีประวัติเพิ่งเดินทางกลับมาจากกินีได้ไม่นาน
ปัจจุบัน ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในเมืองอาบิดจาน ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุด และตั้งอยู่ริมชายฝั่งทางตอนใต้ของไอวอรีโคสต์ ขณะที่ผู้สัมผัสใกล้ชิดและกลุ่มเสี่ยงสูงทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการกักตัวแล้ว
ขณะที่ ดับเบิลยูเอชโอแสดงความกังวล ต่อการที่ไอวอรีโคสต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศมีฐานะทางเศรษฐกิจมั่งคั่งที่สุดในทวีปแอฟริกา พบผู้ป่วยโรคอีโบลาและอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ของประเทศด้วย พร้อมทั้งยืนยันว่า ดับเบิลยูเอชโอยินดีให้ความช่วยเหลือแก่ไอวอรีโคสต์ เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้ได้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ สถานการณ์ดังกล่าวในไอวอรีโคสต์เกิดขึ้นเกือบ 2 เดือน หลังกระทรวงสาธารณสุขของกินีประกาศเมื่อปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ประกาศยุติการแพร่ระบาดรอบล่าสุดของเชื้อไวรัสอีโบลา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.พ.ปีเดียวกัน หลังไม่พบผู้ป่วยใหม่ภายในระยะเวลา 42 วัน หรือ 2 เท่าของระยะเวลาที่เชื้อโรคฟักตัว นับตั้งแต่วันรายงานสถิติผู้ป่วยครั้งล่าสุด โดยการแพร่ระบาดครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย จากจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 16 คน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกินีและดับเบิลยูเอชโอยืนยันพร้อมกัน เมื่อต้นเดือนนี้ พบผู้เสียชีวิตจากโรคมาร์บัวร์ก ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อไวรัสเฉียบพลันรุนแรง เกิดจากเชื้อไวรัสที่อยู่ในวงศ์ใกล้เคียงกับเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคอีโบลา โดยดับเบิลยูเอชโอมองด้วยว่า ความน่าวิตกกังวลของการพบผู้เสียชีวิตจากโรคมาร์บัวร์กในกินีครั้งนี้ คือเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ที่มีการพบผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าว ในภูมิภาคทางตะวันตกของทวีปแอฟริกา.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES