เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รองผบช.น. พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.1พ.ต.อ.สุรพค์ ธรรมพิทักษ์ รอง ผบก.2 พ.ต.อ.ฎวไนยเสนาวุธ รรท.ผกก.สน ทุ่งสองห้อง พ.ต.อ.สมศักดิ์ มงคลคุณากร ผกก.สน.คลองตัน และ พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ห้วยขวาง ร่วมแถลงข่าวจับกุมแก๊งลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ “ดี๋ดี๋ ทำมะกา”
โดยจับกุใผู้ต้องหาได้ 4 คน ประกอบด้วย นายประทีป หรือดี๋ดี๋ เอี่ยมสำอางค์ อายุ 37 ปี นายสรายุทธ หรือหมู ยศอินทร์ อายุ 34 ปี น.ส.สุธารัตน์ หรือเจน ล้อมจันทร์ อายุ 22 ปี และ นายวิชัย หรือหนู กู่ระหงษ์ อายุ 46 ปี พร้อมของกลางรถเก๋งฮอนด้า ชิตี้ ทะเบียน 3 กย 1610 กรุงเทพมหานคร รถจยย. ฮอนด้า คลิ๊ก สีแดง-ดำ 2 คัน พร้อมแผ่นป้ายทะเบียน 2 ขฮ-4424 กรุงเทพมหานคร , รถ จยย.ฮอนต้า เวฟ 125 สีแดง-ดำ 1 คัน ประแจพร้อมเหล็กลักษณะแบนยาว 3 ชุด และขยายผลตรวจยึดรถเก๋.ฮอนด้า แจ๊ส ที่ใช้ในการกระทำความผิดได้อีก 1 คัน
พล.ต.ต.นิตินันท์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก ตำรวจได้รับแจ้งมีคนร้ายลักรถจยย.ในพื้นที่ต่างๆในกรุงเทพฯ ทางชุดสืบสวนของ สน.ทุ่งสองห้อง และ สน.คลองตัน จึงได้ลงพื้นที่เฝ้าติดตามมาประมาณ 3 เดือน พบว่าคนร้ายทำงานเป็นแก็ง มีหัวหน้าคือนายประทีบ หรือ ดี๋ดี๋ ท่ามะกา เพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ยังกลับมากอเหตุลักจยย.อีกครั้ง โดยทั้งหมดจะเดินทางมาจาก อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เข้ามาในกรุงเทพฯ จากนั้นจะเลือกเป้าหมายเป็น จยย.ตามหอพัก, คอนโดฯ, อพาร์ทเมนต์ เนื่องจากผู้ต้องหาเคยพักอาศัยอยู่ย่านรามคำแหงจึงทำให้รู้ถึงพฤติกรรมการจอดรถ จยย.เป็นอย่างดี
พล.ต.ต.นิตินันท์ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นคนร้ายจะลักรถ จยย. คันแรก และใช้ตระเวนลักคันอื่นๆ ไปตามพื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพฯ สูงสุดคืนละ 4 คัน เมื่อคนร้ายได้ตามที่ต้องการ ก็จะทิ้งรถ จยย.ที่ลักมาคันแรกไว้ เพื่อให้ตำรวจสับสน ก่อนจะนำรถทั้งหมดไปยังจ.กาญจนบุรี เพื่อส่งขายต่อประเทศเพื่อนบ้านคันละ 7,000 บาท ก่อนแบ่งเงินไปใช้จ่ายและวนกลับมาลงมือก่อเหตุอีกหลายครั้ง ตำรวจจึงเฝ้าติดตามทั้งจากกล้องวงจรปิด เพื่อหาตัวคนร้ายและยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุ รวมถึงตรวจสอบเส้นทางการเงิน จนกระทั่งสามารถจับกุมคนร้ายได้ในที่สุด เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะฯ” นั้นจะติดตามขยายผลหาผู้ร่วมกระทำผิดเพิ่มเติมมาดำเนินคดีเพิ่มเติม
