เมื่อวันที่ 7 ต.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังท่าอากาศยานทหาร ดอนเมือง เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ทำร้ายเด็กและประชาชนที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู ณ โรงพยาบาลหนองบัวลำภู อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู และโรงพยาบาลอุดรธานี อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี เป็นการส่วนพระองค์
โดยเมื่อเวลา 21.15 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่งถึงโรงพยาบาลหนองบัวลำภู อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู และนายแพทย์ไพฑูรย์ ใบประเสริฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองบัวลำภู เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ แล้วเสด็จขึ้นห้องบรรยายสรุป พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู กราบบังคมทูลรายงานสรุปเหตุการณ์ฯ เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานกระเช้าแก่นายสุวิทย์ จันทร์หวร เป็นส่วนรวมเพื่อเชิญไปมอบแก่ผู้บาดเจ็บทุกคนจากเหตุการณ์ดังกล่าว
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลจำนวน 4 ราย พร้อมทรงซักถามถึงอาการผู้บาดเจ็บจากแพทย์เจ้าของไข้ด้วยความห่วงใยและสนพระราชหฤทัยในการรักษาผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ และพระราชทานพระราชกำลังใจแก่ญาติผู้ได้รับบาดเจ็บ
เสร็จแล้วเสด็จฯ ไปยังชั้น1 ตึกศัลยกรรมและตึกผ่าตัดเพื่อพระราชทานกำลังใจแก่ครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ครั้งนี้ พร้อมทั้งทรงมีพระราชปฏิสันถารให้กำลังใจ และให้เชื่อมั่นในความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันเพื่อให้ฟื้นกลับมาใช้ชีวิตปกติด้วยกำลังใจที่เข็มแข็งอีกครั้ง ดังความว่า
“รู้สึกเสียใจเศร้าสลดใจมากที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ช่วงเวลาแห่งความรู้สึกเศร้าโศกเสียใจก็ไม่ทราบจะอธิบายอย่างไรให้เข้าใจ ก็เป็นความรู้สึกร่วม เป็นเหตุที่ไม่ดีเกิดขึ้น ถ้าเกิดมีอะไรเดือดร้อนลำบากให้ช่วยเหลือให้ดูแล ขอแสดงความเสียใจและคงไม่มีคำไหนมาแทนความเสียใจได้ ก็ขอให้กำลังใจพวกเราเข้มแข็งเพื่อให้วิญญาณน้องๆเขาสบายใจ เราก็จะทำพิธีการทำบุญสวดมนต์ เพื่ออุทิศส่วนบุญกุศลให้กับผู้ที่จากไป แล้วก็เป็นขวัญและกำลังใจให้ทุกคน เราก็เสียใจด้วยมาก เราจะต้องทำยังไงตอนนี้ เราต้องทำอะไรให้ดีที่สุดเป็นกำลังใจให้ทุกคน”
เมื่อสมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงพยาบาลอุดรธานี อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินถึงโรงพยาบาลอุดรธานี อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี เสด็จพระราชดำเนินไปยังตึกศัลยกรรม โรงพยาบาลอุดรธานี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายแพทย์ สุมน ตั้งสุนทรวิวัฒน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุดรธานี รักษาราชการแทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุดรธานี กราบบังคมทูลรายงานผลการรักษาพยาบาลของเด็กชายกฤษกร เรืองเจริญ อายุ 3 ขวบ ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ฯ แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมและพระราชทานกระเช้าของเยี่ยมแก่บิดาและมารดาของเด็กชายกฤษกร สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยและทรงติดตามเหตุการณ์ทำร้ายเด็กและประชาชน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี พร้อมด้วยพลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข องคมนตรี พลอากาศเอกจอม รุ่งสว่าง องคมนตรี และนายอำพน กิตติอำพน องคมนตรี ไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บทุกรายโดยทันที เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 พร้อมกับเชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยไปกล่าวแก่ครอบครัวของผู้ได้รับบาดเจ็บ และพระราชทานกำลังใจกับทรงชื่นชมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่าย ณ โรงพยาบาลหนองบัวลำภู อำเภอเมืองหนองบัวลำภู และโรงพยาบาลนากลาง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู กับโรงพยาบาลอุดรธานี อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับผู้บาดเจ็บไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับศพผู้เสียชีวิตไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษด้วย
ทั้งนี้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2565 เวลา 12.30 น. ได้รับแจ้งเหตุจาก สถานีตำรวจภูธรนากลาง ว่ามีอดีตข้าราชการตำรวจ (สถานีตำรวจภูธรนาวัง) ก่อเหตุกราดยิง ณ องค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ เสียชีวิตจำนวน 2 ราย ต่อมาได้นำปืนและมีดก่อเหตุในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ เสียชีวิตจำนวน 24 ราย จากนั้นผู้ก่อเหตุได้เดินทางกลับบ้าน ระหว่างทางขับรถไล่ชนผู้คนรวมทั้งใช้ปืนยิง เสียชีวิตจำนวน 9 ราย เมื่อกลับถึงบ้านได้นำรถยนต์ไปจอดบริเวณหน้าบ้าน เพื่อทำการเผา หลังจากนั้นได้เข้าบ้านทำการยิงลูกพร้อมภรรยาและปิดชีพตัวเอง ในเวลาต่อมา เวลา 17.00 น. มีรายงานผู้เสียชีวิต 37 ราย (รวมผู้ก่อเหตุ) บาดเจ็บ 10 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหนองบัวลำภู 5 ราย โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี 2 ราย สำหรับผู้บาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 3 ราย แพทย์วินิจฉัยให้กลับบ้านได้.