เมื่อวันที่ 28 ก.ย. นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการเตรียมนักกีฬาทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ และนายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการ ฝ่ายกีฬาอาชีพและวิทยาศาสตร์การกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ร่วมกันประชุมพิจารณาแผนงานและงบประมาณการเตรียมนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งกำหนดแข่งขันระหว่างวันที่ 5-17 พ.ค.2566

การประชุมครั้งนี้ ได้เชิญผู้แทนแต่ละสมาคมกีฬาที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ร่วมแถลงความพร้อมของนักกีฬาที่กำลังเก็บตัวอยู่ขณะนี้ เพื่อขอเสนอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2566 ที่ห้องประชุม ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา กกท. ล่าสุดได้เชิญ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เข้ามาชี้แจง โดยมี นายพาทิศ ศุภพงษ์ เลขาธิการสมาคมฯ เป็นผู้แจ้งความคืบหน้าในการเตรียมความพร้อมทั้งฟุตบอลชายและฟุตบอลหญิง

นายพาทิศ กล่าวว่า สมาคมฯ ได้ทำแผนดำเนินการเก็บตัวนักเตะทีมชาติไทย พร้อมกับแผนงานซื้ออุปกรณ์ รวมถึงแผนการเดินทางไปเก็บตัวฝึกซ้อมและอุ่นเครื่อง ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ในเดือน มี.ค.66 เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 6,687,000 บาท รวมกับงบประมาณค่าใช้จ่ายส่งแข่งขัน ประมาณทั้งสิ้น 11,121,600 บาท ขณะนี้ สมาคมฯ ยังขาดงบประมาณ จึงจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจาก กกท.อย่างมาก

ส่วนการเฟ้นหานักเตะล่าสุดได้พิจารณานักฟุตบอลชายชุดซีเกมส์ไว้แล้ว จำนวน 70 คน และจะคัดผู้ที่ฝีเท้าดีให้เหลือไม่เกิน 40 คน ต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเตะที่มีอายุ 21 ปี ยอมแบกอายุน้อยกว่าคู่แข่ง 1 ปี เริ่มเก็บตัวเป็นระยะๆ สลับกับช่วงที่ว่างเว้นจากการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก ขณะที่ ฟุตบอลหญิง ส่วนใหญ่เป็นชุดเดิม ประสบการณ์ความสามารถค่อนข้างดี ผสมผสานกับดาวรุ่งอีกจำนวนหนึ่ง

นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ และ พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ กล่าวว่า การที่เรียกเก็บตัว 3 วัน หรือ 5 วัน ยังไงก็ไม่มีทางชนะคู่แข่ง แต่ก็เห็นทำกันอยู่เป็นประจำ ส่วนงบประมาณที่ขอมาจำนวน 11 ล้านบาท มองว่ามากเกินไป ควรกลับไปพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง แล้วนำมาเสนอให้ที่ประชุมได้รับทราบตามความถูกต้องต่อไป

ขณะที่ นายประชุม บุญเทียม แจ้งให้ทราบว่า การเตรียมทีมครั้งนี้จะอยู่ที่ไหน ในเมืองไทยหรือต่างประเทศก็ตาม จะต้องนำนักฟุตบอลทั้งชายและหญิง มาเข้าทำการทดสอบสมรรถภาพความสมบูรณ์ของร่างกาย ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา กกท. จำนวน 2 ครั้ง และต้องให้ครบก่อนเดือน มี.ค.66 ตามระเบียบของ กกท. ก่อนส่งชื่อให้กับคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ในเดือน มี.ค.66 หากเลยกำหนดก็ไม่ต้องเดินทางไปแข่งขันซีเกมส์

นายชัยภักดิ์ ยังแจ้งให้ นายพาทิศ ศุภพงษ์ รับทราบเพิ่มเติมว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการโอลิมปิคฯ ได้กำชับว่าในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชา นั้น ฟุตบอลทั้งทีมชายและทีมหญิงของไทย จะต้องคว้าเหรียญทองเท่านั้น หากพลาดจากเหรียญทอง ต้องมีผู้รับผิดชอบ