จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Nin Nillaya” โพสต์คลิปวิดีโอกล้องวงจรปิดพร้อมข้อความระบุว่า “โจรมา 2 ครั้ง คืน 22 กันยายน และ 24 กันยายน!!” สายสืบแจ้ง เส้นทางโจร เข้าจรัญ 1 อ้อมมาจรัญ 3 ตัดมาซอยบางกอกคริสต์มาส แวะขโมย ตัดออก เพชรเกษม 16 อ่ะใกล้บ้านใคร ฝากบอกให้ระมัดระวังเพิ่มเติมนะคะ!!!! สน.ท่าพระ ป.ล.ไม่ได้คาดหวังว่าต้องจับได้ อย่างน้อยให้ ปชช. ได้ระมัดระวังตัวเพิ่มก็ดีแล้ว #จรัญ #จรัญ1 #จรัญ3 #ซอยบางกอกคริสมัส #เขตบางกอกใหญ่ #สถานีตำรวจนครบาลท่าพระ #เพชรเกษม16 #เพชรเกษม #ท่าพระ #เตือนภัย #บางกอกคริสมัส” นั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ที่เกิดเหตุอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 16 (อำนวยสุข 2) แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ ลักษณะเป็นไซต์ก่อสร้างอาคารสูง 3 ชั้น ซึ่งมี น.ส.นิลลยา พูลภัทรชีวิน อดีตผู้ประกาศข่าวช่อง 3 เป็นเจ้าของอาคาร หลังถูกคนร้ายรมยาสลบบุกเข้าไปขโมยโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ยี่ห้อออปโป้ 1 เครื่อง และยี่ห้อซัมซุง 2 เครื่อง ซึ่งเป็นของคนงานก่อสร้าง ภายในแคมป์คนงาน เมื่อคืนวันที่ (22 ก.ย.) ที่ผ่านมา เวลา 04.00 น. หลังเกิดเหตุเดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.วิเชน หอมสุวรรณ รอง สว.(สอบสวน) สน.ท่าพระ

น.ส.นิลลยา เปิดเผยว่า โดยคืนเกิดเหตุครั้งแรก เมื่อวันที่ 22 ก.ย. คนงานเล่าให้ฟังว่า คืนนั้นฝนตกหนักจนไม่ได้ยินเสียงอื่นนอกจากเสียงฝนฟ้า คนงานก็ต่างหลับกัน ปรากฏว่ามีคนร้ายสองคน คนหนึ่งได้ลอดผ้าใบเข้ามา ส่วนอีกคนติดเครื่องมอเตอร์ไซค์รอหน้าไซต์งาน จังหวะนั้นคนร้ายได้ลอดเข้ามุ้งของคนงานแล้วหยิบโทรศัพท์ของคนงานไป 3 เครื่อง และรื้ออุปกรณ์เครื่องมือก่อสร้างต่างๆ แต่ไม่ได้เอาอะไรไป แล้วก็ขี่รถ จยย.หลบหนีไป คนงานเล่าให้ฟังเพิ่มเติมอีกว่า ตอนที่ตื่นขึ้นมา ทุกคนมีอาการมึนหัว ซึ่งไม่มั่นใจว่าถูกคนร้ายรมยาเพื่อให้ผล็อยหลับหรือไม่

ส่วนคืนเกิดเหตุครั้งที่ 2 ในวันที่ 24 ก.ย. คนงาน ได้ผลัดเวรเฝ้าไซต์ก่อสร้าง จนดึกเลยหลับพักผ่อนไป แต่มีคนงานคนหนึ่งลงมาเข้าห้องน้ำที่อยู่หน้าไซต์งาน ก็พบกับคนร้ายหนึ่งคน ที่กำลังจะเข้ามาในไซต์ก่อสร้าง ซึ่งคนร้ายมีท่าทางตกใจแล้วหนีไปทางซอยอำนวยสุข 2 ส่วนตัวคนงานก็ตกใจ และไล่ปลุกคนงานที่เหลือว่าคนร้ายมาขโมยซ้ำอีกรอบ

น.ส.นิลยา เผยอีกว่า ตนเพิ่งย้ายมาอาศัยในย่านนี้เป็นเวลามา 5 ปี ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีประวัติก่อเหตุในลักษณะนี้ เบื้องต้นหลังเกิดเหตุในวันที่ 22 ก.ย. คนงานก็ได้ไปแจ้งความที่ สน.ท่าพระ และได้รวบรวมพยานหลักฐานเป็นการมาเก็บภาพรอยเท้า รอยนิ้วมือ ร่องรอยของคนร้าย รวมไปถึงกล้องวงจรปิดของ สน.ท่าพระ ซึ่งสามารถจับภาพของคนร้ายได้ แต่จับได้ไม่ชัดเจน ส่วนกล้องวงจรปิดของ กทม. กำลังดำเนินการ

“เหตุการณ์ผ่านไปจะครบสัปดาห์ คดีคืบหน้าล่าช้ามาก ซึ่งตนก็เข้าใจดีว่าตำรวจต้องใช้เวลาสอบสวนและหาพยานหลักฐานมัดตัวคนร้าย แต่ด้วยเวลาที่นานก็ทำให้ตน คนงาน และครอบครัว ต่างก็ผวาและหวดกลัวว่าคนร้ายจะมาก่อเหตุซ้ำซาก เลยอยากให้ทางตำรวจเร่งดำเนินการให้เร็วกว่านี้ พร้อมกับฝากเตือนภัยประชาชน โดยเฉพาะละแวกจรัญสนิทวงศ์ ท่าพระ หรือเพชรเกษม ให้ระมัดระวังตีนแมวย่องเบาเข้าบ้าน หากเป็นไปได้ก็ป้องกันตัวเองเบื้องต้นโดยการติดกล้องวงจรปิด” น.ส.นิลลยา กล่าว

ด้านนายทองลา กัณหา ช่างก่อสร้าง กล่าวว่า ส่วนตัวรู้สึกกังวลอันตราย หากยังจับขโมย 2 คนนี้ไม่ได้ เพราะหลังคืนเกิดเหตุ ไปแจ้งความไว้แล้วที่ สน.ท่าพระ ผ่านไปแค่วันเดียว คืนวันที่ 24 ก.ย. มีชายแปลกหน้ามาซุ่มอยู่อีก โชคดีวันนั้นมีคนงานเปิดประตูออกไปเจอพอดี ชาย 2 คนนั้นรีบวิ่งหนีไป ทำให้คนงานทุกคนเชื่อว่า น่าจะใช่ชาย 2 คนนั้น.